วันเสาร์ที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2556

อ่านเรื่องย่อ ต้นรักริมรั้ว ตอนที่ 4

อ่านเรื่องย่อ ต้นรักริมรั้ว ตอนที่ 4


ขณะที่ภายในบ้านของกษิดิฐ กำลังมีพิธีรดนํ้าสังข์แก่คู่บ่าวสาวอยู่นั้น...

ที่หน้าบ้าน รถสปอร์ตคันหรูแล่นมาจอดอย่างแรง แตงกวาลงจากรถเดินอาดๆเข้าไปในบ้าน ผ่านรูปถ่ายคู่บ่าวสาวที่ตั้งอยู่หน้างาน ก็คว้าทุ่มทิ้งด้วยความแค้น แล้วก้าวพรวดๆเข้าไปในบ้าน

เอ็ดดี้เห็นแตงกวามาก็เดาได้ว่าต้องมีเรื่องแน่ รีบเดินหลบๆ เข้าทางหลังบ้าน เป็นเวลาที่พ่อแม่คู่บ่าวสาวทยอยกันเข้ารดนํ้าสังข์และให้พร เอ็ดดี้พยายามจะบอก

กษิดิฐ แต่ไม่มีจังหวะ ก็พอดีเสียงแจกันดอกไม้กระทบพื้นแตกเพล้ง!!

“ไม่ทันแล้ว...” เอ็ดดี้พึมพำหน้าเสีย

“เอาหมวกกันน็อกไหมกบ เผื่อประวัติศาสตร์ซํ้ารอย” มัญจากระซิบถามกษิดิฐ

ประวัติศาสตร์ที่มัญจากลัวจะซํ้ารอยคือ เมื่อ 3 ปีก่อน ขณะกำลังมีพิธีรดนํ้าสังข์ให้กษิดิฐกับนลินอยู่นั้น จู่ๆแตงกวาก็โผล่พรวดเข้ามา แสยะยิ้มใส่กษิดิฐและนลิน ถามว่า

“ตกใจอะไรกัน คิดว่างานมงคลขนาดนี้ แตงกวาจะพลาดเหรอ...” พรวดเข้าไปหยิบสังข์ราดใส่หัวนลินทันที เท่านั้นไม่พอ ยังยกสังข์ทำท่าจะขว้าง กษิดิฐรีบเอาตัวบังนลินไว้ สังข์เลยถูกปาใส่กษิดิฐจนหัวแตก

แต่วันนี้ มัญจาเข้าไปขวางแตงกวาบอกว่า

“ถ้าจะก่อกวนงานแต่งกบกับบัวเหมือนคราวที่แล้วละก็ ออกไปเลย”

ผลคือ มัญจาถูกผลักกระเด็นแล้วแตงกวาก็ก้าวเข้าหากษิดิฐกับนลิน ตะโกนใส่หน้า

“นํ้าสังข์...มันไม่เหมาะกับพวกลักกิน ขโมยกิน มันต้องไอ้นี่!” พลางล้วงกระเป๋า ทุกคนตกใจนึกว่าเธอจะควักปืนออกมา กษิดิฐโผเข้ากอดนลินไว้ แต่ปรากฏว่าสิ่งที่เธอหยิบออกมาคือขวดเลือด เธอสาดใส่กษิดิฐ

“ออกไปจากงานแต่งลูกสาวฉันเดี๋ยวนี้” ชลัชเข้ามาลากแตงกวา ยศภัทรเข้ามาช่วยอีกคน เลยกลายเป็นสองคนช่วยกันหิ้วปีกแตงกวาออกไป แต่เธอยังหันตะโกนด่าสาปแช่งลั่นห้อง

“บัว...ฉันขอให้ผลกรรมของการแต่งงานจอมปลอมนี้ ทำให้เธอพังพินาศ! บ้านร้อน! เรือนเดือด! กินนํ้าตาแทนข้าว! กินเลือดแทนนํ้า!!”

ทุกคนตกใจกับความบ้าระหํ่าของแตงกวา มีแต่ปราณที่ซุ่มดูอยู่ยิ้มอย่างสะใจ

แตงกวาถูกลากออกมานอกบ้าน ชลัชตวาดว่ามาทางไหนรีบไปทางนั้นเลย แล้วถ้ามายุ่งกับบัวอีกจะแจ้งตำรวจจับ  แตงกวาสวนทันควันว่า รู้อยู่ว่าตนเป็นใคร แค่คดีก่อกวนตำรวจตำรวจทำอะไรตนไม่ได้หรอก

“แตงกวา อารู้นะว่าหนูรักตากบ แต่ตากบรักบัว หนูต้องยอมรับความจริง” ยศภัทรเอ่ย

“ความจริงคือกบรักแตงกวาค่ะ เพียงแต่กำลังไม่รู้ใจตัวเองเท่านั้น”

“ก็ในเมื่อวันนี้กบยังไม่รู้จักใจตัวเอง แตงกวากลับไปก่อนเถอะนะ”

“เห็นแก่ที่คุณอาเป็นพ่อของกบ!! แตงกวากลับก็ได้ค่ะ” เธอหันเดินออกไป ผ่านซุ้มที่มีผ้าพันจัดเป็นทางเข้า ก็จุดไฟแช็กโยนเข้าไปที่ซุ้มผ้าอย่างสะใจ
พอเกิดไฟไหม้ ยศภัทรก็วิ่งหานํ้าดับไฟ โดยมีบรรดาหนุ่มๆหลายคนช่วย บรรยากาศแต่งงานเลยกลายเป็นวุ่นวาย ท่ามกลางความสะใจของปราณที่ซุ่มดูอยู่

ooooooo

เมื่ออภิชาติกลับไทยแล้ว อณุกาเดินกลับห้องพัก โดยมีติณณ์ตามมาส่ง

“เสียดายจริงๆที่น้องแตงกวากับคุณอภิชาติมีธุระด่วนต้องรีบกลับ...พวกเขาไม่อยู่แล้วพี่ก็ไม่รู้จะอยู่ทำไม พี่กลับวันนี้เลยดีกว่า”

“ดูพี่ณุกาเกรงใจคุณอภิชาติมากเลย เขาเป็นใครเหรอครับ”

“เจ้าของธุรกิจเรือเดินสมุทรที่ใหญ่ที่สุดในเมืองไทย แล้วก็มีเส้นสายอยู่ทุกวงการ ถ้าเราทำให้เขาพอใจได้ เส้นสายของเขาก็ช่วยให้เราเป็นบริษัทโฆษณาอันดับ 1 ของวงการได้ไม่ยาก”

ติณณ์ติงว่าเธอก็รู้อยู่แล้วว่าวงการนี้เขาดูกันที่ผลงานไม่ใช่เส้นสาย แต่อณุกาเห็นว่างานดีอยู่แต่ถ้ามีเส้นสายช่วยมันก็จะเอื้อให้เราทำธุรกิจง่ายขึ้น เธอนิ่งไปนิดหนึ่งแล้วบอกติณณ์ว่า

“พี่อยากให้ติณณ์กลับเมืองไทย” เขาถามว่าแล้วงานทางนี้ล่ะ? “ให้คนอื่นดูไปก่อน เพราะงานที่พี่อยากให้ติณณ์ทำที่เมืองไทยสำคัญกว่า” ครั้นติณณ์ถามว่างานอะไร เธออำไว้ บอกว่ากลับไปค่อยคุยกัน แต่เขาไม่ต้องกลับพร้อมตนวันนี้ก็ได้ อยู่เคลียร์งานอีกสักสองสามวันแล้วค่อยตามกลับ

“ครับ...” ติณณ์รับคำงงๆ

ooooooo

ตกกลางคืน แตงกว่าแต่งชุดราตรีสีดำจะออกจากบ้าน ถูกลูกน้องของอภิชาติสองคนมาจับตัวไว้

“ไอ้พวกบ้า! แกจับฉันไว้ทำไม ปล่อยฉันนะ”

“ขืนพวกมันปล่อย ลูกก็จะได้ไปอาละวาดที่งานแต่งไอ้กบอีกน่ะสิ มันแต่งงานกับคนอื่นไปแล้ว หูตาลูกยังไม่สว่างอีกหรือว่าไอ้กับมันไม่ได้รักลูก” อภิชาติเตือนสติ

เธอยืนกรานว่ากษิดิฐรักตน แต่ที่แต่งงานกับนลินเพราะถูกฝ่ายนั้นวางแผนจับ อภิชาติบอกว่าไม่ว่าจะอย่างไร เวลานี้กษิดิฐก็แต่งงานกับนลินไปแล้ว เธอจะทำอะไรได้

“แฉไงคะ...แตงกวาจะทำให้ทุกคนรู้ว่า บัววางแผนให้กบแต่งงานด้วยเพราะเรื่องงาน” อภิชาติถามว่า เชื่อหรือว่าคนอื่นจะเชื่อผู้หญิงเจ้าอารมณ์อย่างเธอ ทำให้แตงกวาจะงัก “ขอบคุณคุณพ่อมากนะคะที่ทำให้แตงกวาได้สติ” แต่พออภิชาติถามว่าจะเลิกยุ่งกับกษิดิฐแล้วใช่ไหม เธอตอบทันทีว่า “ไม่ใช่ค่ะ...แต่คุณพ่อทำให้แตงกวาได้สติว่า ไม่ควรแฉบัวด้วยคำพูดแต่ควรหาหลักฐานที่ทำให้ทุกคนเชื่อมาแฉยัยบัวให้ได้ต่างหากล่ะคะ”

ooooooo

อณุกากรีดกรายเข้ามาในงานเลี้ยงฉลองสมรส ชลัชกับยศภัทรแย่งกันเข้าไปต้อนรับเอาหน้าจนเขม่นกัน

เมื่อเข้ามาในงานแล้ว อณุกาถามยศภัทรว่า เจ้าสาวกับเจ้าบ่าวอยู่ไหน

กษิดิฐกับนลินถูกเพื่อนๆห้อมล้อมแสดงความยินดี เมื่อเพื่อนกระจายกันไปแล้ว จึงเห็นทั้งสองสวยสง่าสมกัน นลินชะเง้อมองหาอณุกา บอกกษิดิฐว่าอยากคุยกับเธอเรื่องของานคืน พอเห็นอณุกาเธอชวนกษิดิฐรีบไปหาทันที

นลินเข้าไปไหว้ขอบคุณอณุกาที่มางานตน แล้วขอพูดเรื่องงานโฆษณาประกันภัย แต่ถูกอณุกาพูดขัดขึ้นว่า
“จะมาพูดเรื่องงานอะไรตอนนี้ล่ะจ๊ะ นี่มันงานแต่งนะ มีความสุขหน่อย” พลางยื่นกล่องของขวัญให้ “นี่ของขวัญแต่งงานจากเกาหลีจ้ะ”
นลินไหว้ขอบคุณและรับกล่องของขวัญส่งต่อให้กษิดิฐ แล้วรีบเดินไปถึงมัญจากับดารินทร์หลบไปอีกมุมหนึ่ง

“คุณณุกาเพิ่งกลับจากเกาหลี ป่านนี้คุณติณณ์ต้องรู้แล้วแน่ๆว่าบัวแต่งงานกับกบ” ดารินทร์ถามว่าแล้วคุณติณณ์ฝากของขวัญมาให้หรือเปล่า พอนลินบอกว่า เปล่า ดารินทร์ฟันธงว่า “ในฐานะที่พี่ทำงานที่นี่มา 5 ปี พี่บอกได้เลยว่าคุณติณณ์ไม่รู้ คุณติณณ์เป็นคนมีน้ำใจ ถ้ารู้ว่าบัวแต่งงานเขาต้องฝากของขวัญมาให้ แต่นี่เขาไม่ฝาก พี่มั่นใจว่าคุณติณณ์ยังไม่รู้เรื่องการแต่งงานของบัวแน่นอน” นลินดีใจถามว่าจริงหรือ “ระดับพี่ ถ้าพูดว่า มั่นใจแปลว่าจริงร้อยเปอร์เซ็นต์”

นลินดีใจ สบายใจขึ้นมาก มัญจาพูดอย่างพลอยสบายใจกับเพื่อนว่า

“สบายใจแล้วก็รีบกลับเข้าไปในงาน แล้วก็ทำให้คุณณุกาเชื่อหมดใจเลยนะ ว่าเธอกับกบเป็นคู่รักที่อยากแต่งงานกันจริงๆ”

ooooooo

ในห้องบอลรูม...

กษิดิฐยื่นแขนให้นลินคล้อง เธอจำต้องทำเนียนไปตามสถานการณ์ ขณะเดินขึ้นเวที กษิดิฐสะดุดบันไดจนเดินกะเผลก ถูกเอ็ดดี้ที่เป็นพิธีกรบนเวทีแซวว่า

“ไม่ทันไรเจ้าบ่าวเดี้ยงซะแล้ว จะมีผลกับการเข้าหอคืนนี้ไหมครับ”

“ไม่ต้องห่วงครับ เพราะหน้าที่เจ้าบ่าวไม่ได้ใช้ขา แต่ใช้อย่างอื่น” กษิดิฐพูดสองแง่สองง่ามเรียกเสียงฮาครืน แล้วทำหน้าตายต่อท้ายว่า “คิดลึกกันนะเนี่ย ผมหมายถึงใช้หัวใจครับ”

เมื่อพิธีกรขอให้เจ้าบ่าวเจ้าสาวกล่าวอะไรกับแขกผู้มีเกียรติสักหน่อย เริ่มจากนลินก่อน แล้วเอ็ดดี้ก็ยื่นไมโครโฟนให้ นลินรับไมโครโฟน หยิบโพยออกมาเตรียมอ่าน ถูกกษิดิฐแซวว่ามีโพยมาด้วยหรือ

“บัวไม่ใช่คนด้นสดอย่างกบนี่” จิกใส่เจ้าบ่าว แล้วยิ้มหวานกับแขกพลางอ่านโพย ขอบคุณแขกที่เสียสละเวลามาร่วมงาน ขอบคุณพ่อแม่ทั้งของกษิดิฐและของตัวเอง สุดท้ายเน้นยํ้าอย่างซาบซึ้งใจว่า

“และอีกคนที่ขาดไม่ได้เลยคือคุณอณุกา ที่จัดการเป็นเจ้าภาพให้บัว สุดท้ายบัวและกบก็ต้องกราบขอโทษถ้ามีความผิดพลาดอะไร ขอขอบพระคุณค่ะ”

เมื่อถึงคิวเจ้าบ่าว กษิดิฐถามเหมือนอยู่บนเวทีคอนเสิร์ตว่า “อาหารอร่อยไหมคร้าบ?...กินอิ่มไหมคร้าบ...” และสุดท้ายที่ทำเอาแขกตอบไม่ออกคือ “อิ่มแล้วอย่าลืมใส่ซองด้วย พ่อผมฝากเตือนมาคร้าบ” ถูกนลินเรียกปราม ก็ยังทะเล้นต่อ “ถ้ามีอะไรบกพร่อง ผมสัญญาว่างานหน้าจะดีขึ้น”

“นี่เฮีย...งานแต่งนะครับ ไม่ใช่งานกาชาด เขาจัดกันครั้งเดียวครับ ไม่ได้จัดกันทุกปี” เอ็ดดี้ขัดคอ

“ก็ผมอยากจัดทุกปี...แต่กับภรรยาคนเดิมนะครับ”

แขกส่งเสียงกิ๊วก๊าวกันลั่นห้อง นลินฝืนใจเต็มที แต่ต้องพยายามยิ้มหวานไว้ เอ็ดดี้ทำหน้าที่ต่อไปว่า...

“ก่อนเชิญเจ้าบ่าวเจ้าสาวลงจากเวที มีแขกหลายๆ ท่านฝากผมมาถามว่า เจ้าบ่าวประทับใจเจ้าสาวตรงไหนครับ”

กษิดิฐมองหน้านลิน ชั่งใจว่าจะตอบให้ดีหรือให้งานล่ม แล้วทำหน้านิ่งตอบว่า
“เอ่อ...บัวเขาเป็นคนมีนํ้าใจครับ ถึงบางครั้งจะขี้บ่นและเจ้าระเบียบไปบ้าง แต่ลึกๆเพราะเขาห่วงผม ถึงเขาจะบ่นว่าผมขี้เกียจ แต่ก็ยอมให้ลอกการบ้านทุกครั้ง ถึงจะแช่งให้ผมสอบตก แต่เขาก็คอยติวหนังสือให้ผมทุกที แล้วเวลาที่ผมไปทะเลาะต่อยตีกับใคร ถึงเขาจะเชียร์ฝ่ายตรงข้าม แต่สุดท้ายก็กลับมาทำแผลให้ผมทุกที”

นลินฟังแล้วอึ้ง คิดไม่ถึงว่ากษิดิฐจะจำรายละเอียดได้ขนาดนี้ พอเอ็ดดี้หันมาทางเจ้าสาว นลินนิ่งไปอึดใจ... จึงเล่า...

“กบเขา...เอ่อ...ถือดอกไม้เข้ามาในบ้านบัว แล้วก็...คุกเข่า...”

“พอเลยบัว...พอเลย” กษิดิฐขัดขึ้น “กบเล่าเอง... บัวครับ บัวเป็นฝ่ายคุกเข่าขอผมแต่งงาน” เอ็ดดี้เหวอถามว่าจริงหรือ กษิดิฐหันมายุนลินว่า “บอกความจริงไปเล้ย คนเรารักใครขอใครแต่งงานต้องอย่าอาย”

“จริงค่ะ” นลินยอมรับ

เอ็ดดี้ปรบมือชมเชยความกล้าหาญของนลิน แต่ชลัชมองกษิดิฐบ่นอย่างไม่พอใจว่า “ยอมรับแทนยัยบัวหน่อยก็ไม่ได้ ไม่มีความเป็นสุภาพบุรุษเลย” ถูกยศภัทรขัดคอว่า กบเป็นคนซื่อโกหกใครไม่เป็น

“ฉีกหน้าผู้หญิงเก่งอย่างนี้น่ะสิถึงไม่มีใครเอากบเป็นแฟน” นลินจิกเบาๆ

เอ็ดดี้ประกาศว่าทุกอย่างจะไม่สมบูรณ์ถ้าจะไม่จบด้วยภาพประทับใจ พลันปภพก็ตะโกนขึ้นว่า

“เจ้าบ่าวต้องจูบเจ้าสาวก่อน” ดารินทร์ติงว่าเขาแต่งกันหลอกๆเท่านั้น ปภพอ้างว่าถึงแต่งหลอกๆก็ต้องทำให้คุณอณุกาเชื่อ ดารินทร์เลยตะโกน จูบกันเลย มัญจา กับน้องจุงประสานเสียงเชียร์กันอย่างสนุกสนาน

นลินอึดอัดใจเพราะไม่อยากให้กษิดิฐทำอะไรทั้งนั้น แต่ถูกกษิดิฐประคองหน้าไปหอมแก้มก็ไม่กล้าขืน ชลัชเมินไปทางอื่นอย่างไม่สบอารมณ์ ส่วนปราณรีบยกมือถือถ่ายรูป แล้วส่งต่อไปให้แตงกวาดูทันที

แตงกวากำลังดื่มไวน์และเปิดดูไอแพดที่ห้องนอน ดูรูปแล้วถึงกับแผดเสียงกรี๊ด ขว้างไอแพดทิ้ง

ooooooo

นลินถูกหอมแก้มแล้วยังไม่จบ ถูกปภพเชียร์ให้จูบปาก ทั้งดารินทร์ มัญจา แม้กระทั่งน้องจุงลูกดารินทร์พากันตะโกนเชียร์

“ไม่เอาแล้วนะกบ” นลินกระซิบเบาๆ แต่จริงจัง กษิดิฐจึงขอกับเสียงเชียร์ทั้งหลายว่า จูบปากขอจูบกันสองต่อสองได้ไหมเพราะตนเขิน แล้วต่อรองเป็นขอทำอย่างอื่นแทน
อย่างอื่นของกษิดิฐคือการเต้นรำ เขากระซิบกับนลินว่า

“กบจำได้นะว่าบัวเคยบอกตอนเด็กว่า ถ้าบัวแต่งงาน บัวอยากให้เจ้าบ่าวของบัวพาเต้นรำ กบก็เลยจัดให้”

“จริงเหรอกบ...” นลินถามอย่างไม่อยากเชื่อ กษิดิฐผายมือโค้งให้และพาเธอไปยืนกลางเวทีอย่างพร้อมจะเต้นรำ พลันดนตรีเพลงจังหวะ 3 ช่าดังขึ้น กษิดิฐเต้นอย่างเมามันและจับนลินเต้นไปด้วย

“บ่าวสาวเปิดฟลอร์แล้ว ขอเชิญทุกท่านมาร่วมสนุกกับบ่าวสาวหน่อยคร้าบบบบบ” เอ็ดดี้ประกาศเชิญชวน พริบตาเดียวคู่เต้นรำก็เต็มฟลอร์ โดยยศภัทร เต้นกับกมลา นันทิดาดึงชลัชออกไปเต้น ดารินทร์ดึงปภพกับน้องจุงไปเต้น มัญจา เอ็ดดี้ ออกไปเต้นด้วย บรรยากาศครึกครื้นสนุกสนาน

อณุกายิ้มสมใจ ที่ทำให้กษิดิฐแต่งกับนลินสำเร็จ

ถึงเวลาส่งตัว พ่อแม่สองฝ่ายนั่งอยู่บนเตียงเพื่ออวยพรบ่าวสาว กมลาเอ่ยขึ้นก่อนว่า

“พ่อกับแม่ไม่มีอะไรจะบอกกับลูก นอกจากคำพูดที่คุณย่าบอกกับลูกในคืนส่งตัว”

ทุกคนเลยคิดถึงคำพูดของคุณย่าเมื่อสามปีก่อน ที่ว่า...

“ย่าขอบใจหลานทั้งสองคนที่ทำให้ความหวังของย่าเป็นจริง ย่ารู้ว่าตอนนี้หลานทั้งสองกำลังรู้สึกว่าโดนย่าบังคับ แต่วันข้างหน้าหลานทั้งสองจะเข้าใจว่า สายตาคนแก่อย่างย่านั้นมองไม่ผิด”

“แล้วถ้าคุณย่ามองผิด ผมตกนรกทั้งชีวิตเลยนะครับ” กษิดิฐอดยียวนไม่ได้

“ฉันน่าจะพูดคำนั้นมากกว่า” นลินเอาบ้าง

คุณย่าปรามกษิดิฐ ถามว่ารู้ไหมว่าตัวเองมีบุญขนาดไหนที่ผู้หญิงดีๆอย่างนลินยอมแต่งงานด้วย สั่งเข้มว่า

“ต่อไปนี้แกควรจะให้เกียรติและดูแลหนูบัวให้สมกับที่หนูบัวยอมเสียสละมาร่วมชีวิตกับแกทั้งชีวิต และให้ความสำคัญกับหนูบัวเป็นที่หนึ่ง เพราะตอนนี้หนูบัวเป็นสมบัติชิ้นสำคัญที่สุดในชีวิตของแก จงทะนุถนอมเขาทั้งกายและใจ อย่าให้ใครมาทำร้าย อย่าให้ความทุกข์ใดมาแผ้วพาน”

กษิดิฐสงบปาก ก้มกราบที่ตักคุณย่ายอแสง คุณย่าหันพูดกับนลินอย่างเอ็นดูว่า

“ส่วนหนูบัว ย่าขอบใจนะที่ยอมตกลงใจดูแลกบ และยอมที่จะวางใจให้เจ้ากบมันดูแล จำไว้นะ...ไม่มีใครอีกแล้วที่จะดูแลเจ้าทั้งสองได้ดีเท่ากับเจ้าดูแลกันและกัน เพราะเจ้าทั้งสองคนเกิดมาคู่กัน”

เป็นอันว่าคุณย่ายอแสงอวยพรคู่บ่าวสาวเป็นรอบที่สอง แม้คุณย่าไม่อยู่แล้วแต่คำอวยพรยังศักดิ์สิทธิ์ ก่อนกลับชลัชลูบหัวนลินบอกลูกว่า “อย่าลืมที่พ่อบอกนะลูก ถ้าอยู่ที่นี่ไม่ไหวก็กลับบ้านเรา”

“อย่าลืมที่พ่อบอกนะ ถ้าไหว...ขอหลานโหลนึง” ยศภัทรพูดล้อเลียนชลัช กวนประสาทกันอีกจนได้

พอออกจากห้องหอ ยศภัทรก็ส่งเงินให้เอ็ดดี้หนึ่ง พันบาทให้เฝ้าหน้าห้องไม่ให้เจ้าบ่าวเจ้าสาวออกจากห้องในคืนส่งตัวเข้าหอ

เอ็ดดี้นอนหลับสบายเพราะไม่มีใครออกจากห้อง แต่กว่ากษิดิฐกับนลินจะนอนได้ก็ถกเถียงกันจนเหนื่อย

ooooooo

รุ่งขึ้น นลินเร่งกษิดิฐให้รีบไปออฟฟิศเพื่อจะของานคืนจากอณุกา พอไปถึงเจอแตงกว่ายืนกอดอกรออยู่หน้าลิฟต์แล้ว เธอบอกกษิดิฐว่ามารอเพราะ อยากขึ้นลิฟต์ไปทำงานพร้อมกับเขาเท่านั้น

ระหว่างอยู่ในลิฟต์ แตงกว่าอ่อยกษิดิฐยั่วนลิน ชวนไปทานกลางวันด้วยกัน นลินกันท่าว่าต้องไปทานกับตน แตงกวาจึงเปลี่ยนเป็นชวนไปดูหนังกันตอนเย็น นลินบอกว่าเราต้องกลับบ้านพร้อมกัน แล้วปรามแตงกวาว่า

“เลิกยุ่งกับกบเสียทีเถอะแตงกวา กบแต่งงานกับฉันแล้วนะ” แตงกว่าเยาะเย้ยว่าแต่งกันหลอกๆแบบนี้ เขาเรียกว่าโชว์ละครสัตว์ นลินเลยโชว์ของจริงให้ดูด้วยการหอมแก้มกษิดิฐ เท่านั้นไม่หนำใจยังจะโชว์จูบปากด้วย แต่พอจะทำจริงๆกลับไม่กล้า เอาไอแพดมาบัง บอกแตงกวาว่าดูหลังไอแพดเอาก็พอ

แล้วนลินก็กระซิบบอกกษิดิฐให้ทำท่าจูบปากขยับหัวไปมาเหมือนพระเอกนางเอกในละครให้ดูสมจริง ทำจนแตงกวาทนดูไม่ได้ออกจากลิฟต์ไป

“ฮ่าๆๆ คิดว่าเธอร้ายเป็นคนเดียวเหรอแตงกวา” นลินหัวเราะสะใจ กษิดิฐเตือนอย่างเป็นห่วงไม่อยากให้เธอยั่วโมโหแตงกวา เพราะถ้าตนไม่อยู่ด้วยแล้วจะไม่มีใครปกป้องเธอ “ถ้ากบหมายถึงที่ออฟฟิศก็หมดห่วงได้เลย มิ้นท์ พี่รินทร์ สารัช อยู่กันครบ พวกเขาไม่ยอมให้แตงกวาทำอะไรบัวหรอก”

พอนลินไปถึงออฟฟิศ มัญจารีบบอกว่า อณุกาสั่งว่ามาถึงให้รีบไปหาด่วน นลินดีใจเชื่อว่าจะได้งานคืนแล้ว วางกระเป๋าแล้วรีบไปทันที ไปถึงเจอแตงกวานั่งอยู่ก่อนแล้ว นลินรีบเดินเข้าไปถาม

“คุณณุกาจะคืนงานประกันภัยให้บัวแล้วใช่ไหมคะ”


“ยังคืนให้ไม่ได้” อณุกาตอบหน้านิ่ง แตงกวายิ้มใบหน้าอย่างสะใจ นลินไม่สบายใจถามว่า ไหนบอกว่า หลังจากตนแต่งงานแล้วจะคืนงานให้ อณุกาลุกเดินไปยืนมองออกไปนอกหน้าต่างเครียดๆ

จนเมื่ออณุกาเล่าเหตุการณ์ที่ผันแปรให้ฟัง แตงกวาตกใจถามว่าลูกค้าประกันภัยอาจจะเปลี่ยนใจให้บริษัทอื่นทำแทนเราหรือ นลินก็ถามว่าลูกค้าชอบไอเดียที่เราพรีเซนต์แล้วทำไมถึงจะเปลี่ยน?

“บริษัทเขาทำโครงการบ้านพักที่เขาใหญ่ด้วย แล้วเขาก็อยากทำโฆษณาประกันภัยกับบ้านเขาใหญ่พร้อมกันด้วยการจ้างบริษัทโฆษณาบริษัทเดียว” อณุกาชี้แจง

“หมายความว่าเราต้องขายไอเดียบ้านพักเขาใหญ่ให้ผ่าน เพื่อจะได้ได้โปรเจกต์ประกันภัยด้วย” นลินถาม

“ใช่...ฉันเลยอยากให้เธอกับแตงกวารีบไปคิดงานบ้านเขาใหญ่มาเสนอเพราะต้องพรีเซนต์ลูกค้าพรุ่งนี้”

นลินรีบขอข้อมูลโครงการบ้านเขาใหญ่ อณุกาบอกว่าอยู่ที่ทรายแก้วให้ไปเอาได้เลย นลินจึงขอตัวไป พอนลินออกไป แตงกวาถามว่า

“พี่ณุกาตั้งใจเอางานประกันภัยคืนให้บัวใช่ไหมคะ ถึงได้ให้บัวคิดงานเขาใหญ่แข่งกับแตงกวา”

“เพราะพี่ไม่อยากคืนงานให้บัว แต่ก็ไม่อยากผิดคำพูดที่รับปากไว้ต่างหากล่ะ ถึงให้บัวคิดงานบ้านเขาใหญ่ ยังไงพี่ก็เลือกงานของแตงกวาอยู่แล้ว ทั้งงานประกันภัย งานบ้านเขาใหญ่ก็จะเป็นของแตงกวาคนเดียว”

แตงกวายิ้มสะใจ อณุกาสบตากับปราณยิ้มให้กันอย่างเป็นไปตามแผน

ooooooo

เมื่อนลินกลับมาเล่าให้ดารินทร์กับมัญจาฟัง ทั้งสองช่วยนลินเต็มที่เพื่อเอาชนะแตงกวาให้ได้

“ยังไงก็แพ้” แตงกวาเดินเข้ามาพูดอย่างมั่นใจ ปราณเดินตามหลังมาเห็นแตงกวาเข้าไปในห้องทำงานของนลินเลยแอบดูแอบฟัง ได้ยินนลินและเพื่อนๆรุมกันโต้แตงกวาอย่างเผ็ดร้อน นลินสวนแตงกวาไปอย่างไม่ยี่หระว่า

“เรื่องกบฉันยังชนะ เรื่องงานฉันจะแพ้เธอได้ยังไง”

“ใช่ๆ คนเราเวลาดวงพุ่ง หยิบจับอะไรคู่แข่งก็แพ้หมดแหละ” มัญจาช่วยเพื่อน นลินทำเป็นคิดๆ แล้วบอกว่า

“จะว่าไป ดูแต่รูปไอเดียมันไม่ค่อยบรรเจิดเท่าไหร่ ไปดูสถานที่จริงแล้วนอนที่นั่นสักคืนดีกว่า” สารัชรีบเสนอตัวเป็นเพื่อน ถูกดารินทร์เบรกว่าคนมีสามีไม่ต้องการเพื่อนหรอก “พี่รินทร์รู้ใจสมกับที่มีสามีแล้วจริงๆ บัวจะชวนกบไปค่ะ นอนดูดาวท่ามกลางขุนเขา... ฮันนีมูนชัดๆ” นลินทำท่าเคลิ้มเดินผ่านแตงกวาไป

แตงกวาเสียท่า ได้แต่จ้องจิกตามนลินไปอย่างเจ็บใจ แต่ปราณมองแตงกวาแล้วมีแผนในใจ...

นลินเดินอ้าวไปสั่งกษิดิฐที่ห้องทำงาน

“กบ!!! กลับบ้าน เก็บกระเป๋า เราจะไปเขาใหญ่กัน”

แม้จะงงๆ แต่กษิดิฐก็รีบทำตาม

ส่วนแตงกวากลับไปนั่งแค้นนลินที่ห้องทำงาน ปราณตามมาถามว่าเครียดที่นลินกับกษิดิฐจะไปเขาใหญ่ด้วยกัน หรือ บอกว่าเรื่องนี้ตนช่วยได้ แตงกวาดักคออย่างระแวงว่า

“พี่ณุกากำลังพยายามจับคู่ฉันกับคุณติณณ์เพื่อเอาใจคุณพ่อ แต่คุณกลับช่วย...คุณอยากกำจัดกบให้พ้นทางเพื่อจะงาบบัวได้ง่ายขึ้นล่ะสิ”

“คุณนี่ช่างสังเกตเหมือนกันนะ เอาเป็นว่าถึงความต้องการเราจะคนละอย่าง แต่ก็มีเป้าหมายเดียวกัน คือทำให้คุณบัวกับคุณกบเลิกกัน แล้วถ้าวันนี้คุณไม่อยากให้คุณกบ ไปกับคุณบัว ผมก็เตรียมการไว้แล้ว รอแค่คำสั่งคุณเท่านั้น”

ooooooo

แผนการของปราณคือ ให้คนแกล้งปล่อยลมยางรถของกษิดิฐทั้ง 4 ล้อ กษิดิฐโทร.เรียกบริษัทขาประจำมาเปลี่ยนยาง แต่คนขับรถของปราณมาดักที่ป้อมยามบอกคนที่จะมาเปลี่ยนยางว่า

“ผมเป็นคนโทร.ไปเอง พอดีเจ้านายผมโทร.ให้บริษัทเพื่อนเขามาเปลี่ยนให้เรียบร้อยแล้ว ไม่ต้องใช้บริการพวกคุณแล้วล่ะ” ส่งเงินให้ 500 บาทเป็นค่าเสียเวลา

นลินกับกษิดิฐรอคนมาเปลี่ยนยางเป็นชั่วโมงจนหงุดหงิด ระหว่างนั้นแตงกวาทำทีผ่านมาถามว่าไหนว่าจะไปเขาใหญ่ พอกษิดิฐบอกว่ายางแบนกำลังรอช่าง แตงกวาก็ทำเป็นบ่น

“เสียเวลาทำงานตายเลย...ฉันล่วงหน้าไปก่อนนะ” นลินถามว่าเธอจะไปเขาใหญ่หรือ “ก็ไปหาแรงบันดาลใจในการคิดงานเหมือนเธอไง...” แล้วเดินไปคล้องแขนกษิดิฐ “แตงกวาไปก่อนนะกบ ต้องส่งงานพรุ่งนี้ ขืนช้าจะทำงานไม่ทัน” พูดแล้วเดินผละไป

นลินมองตามอย่างร้อนใจ เธอตัดสินใจนั่งแท็กซี่กลับไปเอารถที่บ้าน กษิดิฐตามมาถามว่าเธอจะไปเขาใหญ่คนเดียวหรือ เธอบอกว่าขืนรอช่าง แตงกวาทำงานเสร็จก่อนมีหวังตนชวดทั้งสองโปรเจกต์พอดี กษิดิฐขอไปด้วย ทิ้งรถไว้ที่นี่ พรุ่งนี้ค่อยมาเอา หรือไม่ก็ให้เอ็ดดี้มาขับไปก็ได้

“อย่าให้งานของบัวสร้างความยุ่งยากให้คนอื่นเลย กบรอช่างไปนั่นแหละ บัวไปคนเดียวได้”

“แต่กบอยากไปด้วย”

“แต่บัวไม่มีเวลามานั่งรอกบ”

“ในขณะที่บัวจะทำอะไร กบมีเวลาให้เสมอ” กษิดิฐตัดพ้ออย่างน้อยใจ แต่กลายเป็นทำให้นลินไม่พอใจหาว่าลำเลิก กลายเป็นเรื่องบาดหมางใจกัน บัวพูดอย่างตัดเยื่อใยว่า ยังไงก็ขอขอบคุณทุกอย่างที่เขาเคยทำให้ และต่อไปนี้ไม่ต้องมาทำให้อีก ตนไม่อยากโดนทวงบุญคุณ!

กษิดิฐฮึดขึ้นมาตอบอย่างไม่แยแสว่า เมื่อทำดีแค่ไหนก็ไม่เห็นคุณค่า ก็ไม่รู้จะทำไปทำไม แล้วต่างคนต่างงอนใส่กัน แตงกวาแอบดูอยู่ โทรศัพท์บอกปราณทันทีว่า “ทุกอย่างเป็นไปตามที่คุณบอก...ขอบคุณนะคะคุณปราณ”

จากนั้นแตงกวาก็ทำทีเข้าไปทักกษิดิฐ ถามว่าช่างยังไม่มาหรือ ตนจะไปเขาใหญ่อยู่แล้ว แต่เป็นห่วงเขาเลยย้อนกลับมาดู แกล้งถามว่าแล้วเมียสุดที่รักไปไหนเสียล่ะ
“กลับไปเอารถที่บ้านไปเขาใหญ่”

“นี่บัวทิ้งกบให้รอช่างคนเดียวเหรอ...ไม่เป็นไรนะ แตงกวาจะอยู่กับกบเอง”

กษิดิฐมองแตงกวาอย่างซึ้งใจ เธอทำทีคอยช่างอยู่กับเขา แล้วบ่นว่าดูท่าช่างจะไม่ได้เรื่องเสียแล้ว เดี๋ยวตนจะโทร.เรียกช่างประจำของคุณพ่อมาทำให้จะได้ไม่ต้องรอ แล้วโทร.เรียกช่างอย่างกระตือรือร้น เธอทำดีจนกษิดิฐรู้สึกตัวเองผิด

แตงกวาทำคะแนนให้ตัวเองเต็มที่ นอกจากคอยเป็นเพื่อน เรียกช่างมาแล้ว ยังไปซื้อนํ้ามาป้อนให้ดื่ม

ooooooo

นลินกลับถึงบ้านเจอนันทิดากับกมลา นันทิดา ถามว่าวันนี้ทำไมกลับมาเร็ว พอรู้ว่าจะไปเขาใหญ่ ถามว่าไปกับใคร นลินบอกว่าไปคนเดียว กมลาถามว่า ทำไมไม่ชวนกบไปเป็นเพื่อน

“กบรู้แล้วค่ะ แต่ตอนนี้รถกบยางแบนรอช่างอยู่ที่ตึก บัวรีบมากรอกบไม่ไหว เลยจะไปคนเดียว” บอกแล้วรีบไปเก็บของ

กมลาร้อนใจโทร.ไปถามกษิดิฐว่าทำไมปล่อยให้นลินไปเขาใหญ่คนเดียว เขาบอกว่านลินไม่มีเวลารอตน กมลาจับนํ้าเสียงได้ถามว่า “นํ้าเสียงแบบนี้แสดงว่างอน”

“คนที่เห็นงานสำคัญกว่าความรู้สึกคนอื่น ถูกงอนบ้างก็สมควรแล้วไม่ใช่เหรอครับ ไม่ต้องแก้ตัวแทนบัวเลยครับคุณนาย ยังไงกบก็ไม่ไป”

แตงกวาที่ชวนกษิดิฐมานั่งที่ร้านกาแฟ ฟังเขาคุยกับแม่แล้วยิ้มสมใจ

ooooooo
นลินไปถึงเขาใหญ่แล้ว ขับรถวนหลายรอบก็ยังหาที่พักไม่เจอ เธอโทร.หากษิดิฐเพื่อถามทาง แต่กษิดิฐไม่รับสาย พอแตงกวาถามว่าไม่รับสายสุดที่รักหรือ เขาบอกว่าไม่มีอารมณ์

พอดีช่างมาบอกว่าเปลี่ยนยางเรียบร้อยแล้ว กษิดิฐจะจ่ายเงิน เธอบอกว่าจ่ายแล้ว กษิดิฐเกรงใจ เธอเลยอ้อนว่า

“แต่แตงกวาอยากจ่ายให้ แตงกวาอยากดูแลกบ แต่ถ้ากบอยากตอบแทน ก็ช่วยพาแตงกวาไปทานข้าวหน่อย แตงกวายังไม่ได้ทานข้าวกลางวันเลย”

“แตงกวาเลือกร้านเลย แล้วไปเจอกันที่ร้าน จะได้ไม่ต้องย้อนกลับมาเอารถที่นี่อีก”

ระหว่างนั้น นลินยังโทร.หากษิดิฐเพื่อถามทางอีก เธอบ่นอย่างหงุดหงิดว่า

“โทร.ตั้ง 3 รอบ แต่ไม่ยอมรับสาย เชิญนายงอนไปถึงชาติหน้าเลยนะ ฉันโทร.ถามพ่อก็ได้ เดี๋ยวพ่อรู้ว่าหลงทางได้ห่วงจนตามมาแน่” เธอตัดสินใจไม่โทร.อีก ขับรถวนหาอีกรอบเพื่อหาทางเข้าบ้านเขาใหญ่ต่อไป

แตงกวาเข้าไปนั่งรอในร้านอาหารแล้วโทร.บอกกษิดิฐ เขามาถึงหน้าร้านพอดี เธอจึงสั่งอาหารรอ แต่ขณะกษิดิฐจะเข้าร้านอาหาร เขาหยิบมือถือจะเก็บจึงเห็นมิสคอลของนลินถึง 3 ครั้ง นึกเป็นห่วงขึ้นมาว่าเธอเป็นอะไรไปหรือเปล่า ตัดสินใจโทร.กลับ แต่นลินงอนไม่ยอมรับสาย ทำให้เขายิ่งร้อนใจเป็นห่วง

กษิดิฐเข้าไปขอโทษแตงกวา บอกว่าตนมีธุระสำคัญต้องรีบไป แตงกวาถามว่าธุระอะไร พอเขาบอกว่าไปหาบัว เธอก็จิกตามองตามไปอย่างโกรธจัด

“ไปหาบัวน่ะเหรอธุระสำคัญ...คนที่จะอยู่กับกบที่เขาใหญ่คืนนี้ ต้องเป็นฉันคนเดียวเท่านั้น!!”

ooooooo

นลินถามทางไปถึงบ้านพักจนได้ ไปถึงมืดค่ำพอดี ป้าชื่นที่ดูแลบ้านพักอยู่มาเปิดไฟให้ นลินตกใจร้องกรี๊ดนึกว่าผีหลอก

ป้าชื่นแนะนำตัวเองว่าเป็นคนดูแลที่นี่ ผู้จัดการ โทร.มาบอกว่าคืนนี้จะมีคนมาค้าง ตนเลยกลับบ้านไปทำอาหารมาให้ ชี้ไปข้างหน้าบอกว่าบ้านตนอยู่ปากทาง ขาดเหลืออะไรก็ขับรถไปเรียกได้ เอาอาหารให้แล้วป้าชื่นก็เดินกลับไป

ระหว่างนลินเดินสำรวจบริเวณบ้านนั้น เธอเห็นเหมือนคนใส่หน้ากากวิ่งผ่านไปแว้บๆ แต่ดูไม่ชัด เลยคิดว่าตัวเองตาฝาด แต่เธอก็ถูกชายคนนั้นตามหลอกหลอนคุกคามจนตกใจหวีดร้องสุดเสียง

ขณะกำลังหวาดกลัวสุดขีดนั่นเอง มีมือหนึ่งมาจับบ่าจากข้างหลัง เธอคว้าไม้ใกล้มือฟาดไปเต็มแรงจนเจ้าของมือร้องลั่น เธอจะตามไปซ้ำ  จึงเห็นว่าเป็นกษิดิฐนั่นเอง!

ระหว่างที่แตงกวาขับรถไปเขาใหญ่นั้น เธอได้รับรายงานจากลูกน้องที่ให้ไปหลอกคุกคามนลินว่ามีผู้ชายมาช่วยและอยู่เป็นเพื่อนนลิน เธอเดาได้ว่าเป็นกษิดิฐ คำรามอย่างเจ็บใจว่า “อย่าคิดนะว่าจะได้อยู่กันอย่างมีความสุข!”

นลินฟาดหัวกษิดิฐจนโนเท่ามะนาว เธอเอาน้ำแข็งประคบให้อย่างเป็นห่วง แต่พอประคบเสร็จ  กลับถูกตัดพ้อว่า

“หัวกบโนอย่างกับลูกมะนาว บัวรับผิดชอบด้วยการประคบน้ำแข็งจึ๊กสองจึ๊กแค่นี้เหรอ”

“แค่หัวโนจะให้บัวดูแลกบถึงเช้าเลยรึไง บัวไม่ว่างต้องทำงาน”

แต่พอจะเดินออกไปก็เจอแตงกวาเดินเข้ามา เธอเปลี่ยนใจทำเป็นเวียนหัวล้มทับซบอกกษิดิฐทันที ไม่เพียงเท่านั้นยังอ้อนจนเขาต้องอุ้มเข้าห้องนอนแล้วล็อกประตูเลย กษิดิฐรู้ว่าเธอจงใจแกล้งแตงกวา แต่ห้ามเธอไม่ได้ นลินยังวางแผนยั่วให้แตงกวาสติแตก ด้วยการแกล้งทำเหมือนมีอะไรกันในห้อง

แตงกวาเจ็บใจมากตะโกนเรียกให้เปิดประตู ข้างในไม่ยอมเปิด กษิดิฐตะโกนออกมาว่าไม่ว่าง เธอจึงแกล้งร้องขอความช่วยเหลือจนกษิดิฐเปิดประตูออกมา แตงกวาทำท่ากลัวมากขอนอนด้วยคน แต่ถูกนลินแกล้งยั่วจนทนไม่ได้กระทืบเท้ากลับไปที่ห้องตัวเอง

เช้าวันรุ่งขึ้น นลินนึกว่าแตงกวายังอยู่ จึงแกล้งเข้าครัวไปทำอาหารกับกษิดิฐจู๋จี๋กันหมายยั่วแตงกวาต่อ แต่พอรู้ว่าแตงกวากลับไปแต่เช้าแล้ว เธอก็สะบัดออกจากครัว บ่นว่าทำไมไม่บอกแต่เช้าจะได้ไม่ต้องเสียเวลาไปอยู่ในครัว

“นี่ถ้าแตงกวาถึงออฟฟิศก่อนต้องพรีเซนต์งานตัดหน้าบัวแน่ๆ” นลินเป็นกังวลขึ้นมา รีบโทร.บอกมัญจา “มิ้นท์...เดี๋ยวบัวจะส่งอีเมล์คอนเซปต์งานโฆษณาบ้านพักตากอากาศไปให้ ฝากมิ้นท์ปริ้นท์ให้คุณณุกาดูก่อน บัวจะรีบไปให้เร็วที่สุด”

ooooooo

พอกลับไปถึงออฟฟิศ นลินบ่นว่าทำไมลูกค้ามาก่อนเวลานัด ดารินทร์เชื่อว่าแตงกวาต้องโทร.เลื่อนเวลาลูกค้าแน่ๆ แต่ไม่เป็นไรเพราะมัญจาพรีเซนต์งานให้แล้ว

นลินถามว่าแล้วเขาเลือกของใคร ไม่มีใครตอบได้ ดารินทร์บอกว่าอณุกาคุยกับลูกค้าเป็นการส่วนตัว คุยเสร็จก็บอกว่ารอบัวมาก่อนแล้วถึงจะบอกว่าลูกค้าเลือกงานของใคร

แต่พอเรียกแตงกวากับนลินไปคุย อณุกาบอกว่าลูกค้าชอบทั้งสองคอนเซปต์ เพราะฉะนั้นทั้งสองคนต้องทำงานด้วยกัน

พอออกจากห้องนลินบ่นกับเพื่อนๆว่าทำงานกับแตงกวานรกชัดๆ แล้วจะเดินข้ามถนนไปซื้อไอศกรีมกินแก้เซ็งกัน

ขณะจะข้ามถนน ถูกรถยุโรปหรูคันหนึ่งขับแซงขวามาอย่างเร็ว เฉี่ยวนลินล้มกลิ้งไป เพื่อนๆตกใจรีบประคองนลิน คนขับรถเองก็ตกใจ เปิดประตูรถวิ่งมาดู พอเห็นคนเจ็บ เขาอุทาน

“คุณบัว!!”

“คุณติณณ์!!” ดารินทร์ มัญจา และสารัชที่ประคองนลินอยู่เงยหน้ามองอุทานพร้อมกัน

ooooooo
ที่มา :ไทยรัฐ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น