วันจันทร์ที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2556

เรื่องย่อ ดาวเกี้ยวเดือน ตอนที่ 3

เรื่องย่อ ดาวเกี้ยวเดือน ตอนที่ 3

เป็นอย่างที่คาดคิด นันทินีมาฟูมฟายโอเว่อร์เล่าเรื่องจันทรภานุกับประกายดาวให้หม่อมสุรีย์ฟัง นมพรไม่อยากเชื่อว่าคุณชายจะกล้าหักหน้าเธอขนาดนั้น และถ้ามีแฟนจริงก็น่าจะบอกกล่าวกันบ้าง หม่อมสุรีย์เห็นด้วย

มิลินทร์กับหมอกิจจาสามี พาประกายดาวมาเที่ยว ผับแต่กิจจาห้ามเธอดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อสุขภาพถ้าอยากตั้งครรภ์ เธอจึงกระโดดเต้นอย่างบ้าคลั่ง จนเซไปชนกับนันทินีที่มาเที่ยวเช่นกัน ทันทีที่นันทินีเห็นหน้าประกายดาว ก็ปรี๊ดแตก ตบหน้าประกายดาว โทษฐานทำให้ตนตบจันทรภานุเมื่อกลางวัน ประกายดาวโมโหสุดๆชกกลับ นันทินีหงายเงิบเลือดกำเดาไหล เธอร้องลั่น ถอดส้นสูงจะเข้ามาตบประกายดาว

เผอิญอภิเชษฐ์เข้ามาจับมือเธอไว้ นันทินีโวยให้ไปจับประกายดาวข้อหาทำร้ายร่างกาย

“แต่ผมเห็นคุณมีรองเท้าส้นสูงเป็นอาวุธ แล้วกำลังจะทำร้ายเขา”

นันทินีอึ้ง ประกายดาวโต้ว่านันทินีตบตนก่อน


อภิเชษฐ์ถามจริงไหม นันทินียอมรับแต่เพราะประกายดาวแย่งจันทรภานุไปจากตน ประกายดาวหมั่นไส้แกล้งยั่วโมโห

“อย่ามาว่าฉันแย่งคุณชายจันทร์ ในเมื่อคุณกับคุณชายไม่ได้เป็นอะไรกัน และที่สำคัญคุณชายจันทร์มาหาฉันเอง...กลับกันเหอะ” ประกายดาวหันไปชวนมิลินทร์กับกิจจา

นันทินีอ้าปากค้างพูดไม่ออก สักพักก็กรี๊ดลั่นออกมา อภิเชษฐ์กำลังเหวออยู่ตกใจเอ็ดให้เธอหยุด แถมตำหนิ คนที่มาจากราชนิกุลดังทำตัวไร้สติแบบนี้หรือก่อนจะเดินหนีไป

วันรุ่งขึ้น อภิเชษฐ์มาถามและเล่าเรื่องให้จันทรภานุฟัง คุณชายหัวเราะ ไม่คิดว่าประกายดาวจะกล้าพูดแบบนั้น อภิเชษฐ์ถามเป็นความจริงหรือที่ทั้งสองเป็นแฟนกัน

“แล้วถ้าเขาเกิดเป็นแฟนฉันขึ้นมาจริงๆ แกว่าเขาจะรับมือกับคุณนันได้รึเปล่า”

“ได้ยิ่งกว่าได้ เห็นจากเมื่อคืนแล้ว ก๋ากั่นเป็นบ้า... พูดแบบนี้แสดงว่าแกกับเขาไม่ได้เป็นแฟนกัน แกคิดจะทำอะไรอยู่ใช่ไหม”

จันทรภานุยิ้มๆไม่ตอบแต่อย่างใด...จากนั้น เขาแวะไปหาประกายดาวพร้อมช่อดอกไม้ เธอแทบไม่เชื่อว่าเขาจะมาขอโทษที่เป็นสาเหตุให้โดนนันทินีตบ เขายื่นช่อดอกไม้และกล่าว

“เป็นแฟนกับผมนะครับคุณดาว”

ประกายดาวตาค้าง “ฉันฝันไปแน่ๆ ตื่นได้แล้วไอ้ดาว...” เธอตบหน้าตัวเอง “ยังไม่ยอมตื่นอีก อุ๊ย ทำไมเจ็บล่ะ หรือว่า...” ประกายดาวหยิกแขนตัวเอง

จันทรภานุจับมือเธอให้รู้สึกตัวว่าไม่ได้ฝัน ประกายดาวขอให้เขาพูดอีกครั้ง เขาดึงเธอมานั่งคุยให้เป็นเรื่องเป็นราว บอกจุดประสงค์ที่แท้จริง เธอถึงกับเหวอ

“คุณจะจ้างให้ฉันเป็นแฟนกับคุณ!”

จันทรภานุพยักหน้ายิ้มๆ ด้วยเหตุผลที่ว่า หม่อมแม่จะได้ไม่จับคู่ตนกับนันทินีอีก ประกายดาวถามจะได้ผลหรือ

“ผมมั่นใจ งานนี้ไม่ใช่ผมคนเดียวที่ได้ผลประโยชน์ แต่คุณก็ได้ด้วยเหมือนกัน คิดดูให้ดีนะคุณดาว การที่คุณได้เป็นแฟนกับผม มันจะทำให้คุณสยบข่าวเรื่องเป็นเมียน้อยคุณศิวะได้เป็นอย่างดี ถึงแม้ว่าคุณอาจจะเป็นจริงๆ”

“ฉันบอกแล้วไงว่าฉันไม่ได้เป็นอะไรกับนายศิวะ” ประกายดาวชักฉุน

จันทรภานุปัดไม่ต้องมาอธิบาย ตนไม่อยากรู้ แค่ทำธุรกิจด้วยกันเท่านั้น งานนี้ไม่มีใครเสียเปรียบ ประกายดาวขอเวลาคิด คุณชายบ่นอย่านาน ประกายดาวแอบโทร.ปรึกษาจิตสุภางค์ เธอรีบบอกจะรีรอทำไม โอกาสมาถึงแล้วให้รวบเอาไว้...ประกายดาวจึงกลับมาบอกจันทรภานุว่าตกลง คุณชายย้อนถามต้องการค่าตอบแทนเท่าไหร่ เธอสวนทันทีว่าไม่ต้องการเพราะรวยอยู่แล้ว เขาจึงถามงั้นต้องการอะไร หญิงสาวอมยิ้ม

“ไว้ทำงานเสร็จก่อน แล้วฉันจะบอก”

“ถ้าไม่ใช่ดาวกับเดือน  ผมให้คุณได้ทุกอย่าง ถ้างั้นตอนนี้ถือว่าเราเป็นทีมเดียวกันแล้วนะ” จันทรภานุยื่นมือไปให้เธอจับ สองคนเขย่ามือยิ้มให้กัน

ooooooo

พอคุณหญิงนิ่มรู้เรื่องก็ยินดีอย่างมาก จันทรภานุย้ำว่าเสร็จงานก็ต่างคนต่างไป แต่คุณหญิงกระเซ้า โบราณว่าไม่ชอบอะไรจะได้อย่างนั้น และคิดหรือว่านันทินีจะรามือ เขาจึงถามควรทำอย่างไร เธอแนะนำให้เขาแสดงสู่สายตาใครๆให้รู้ว่าเขารักประกายดาวมาก

วันถัดมา หลังจากประกายดาวทำงานเสร็จ เจ๊พีชถือชุดหรูเข้ามาหา บอกว่าจันทรภานุให้ตนนำชุดนี้มาให้เธอแต่งโดยให้แต่งหน้าทำผมให้ด้วย ประกายดาวแปลกใจทำไมไม่โทร.มาบอกก่อน เจ๊พีชพูดตามคำพูดคุณชายว่า เธอไม่ปฏิเสธแน่นอน ว่าแล้วก็กระทุ้งศอกข้างเอว

“แล้วไปจีบกันตอนไหนยะ ทำไมเจ๊ไม่รู้”

“ดาวถือเคล็ดน่ะเจ๊ ถ้าไม่ชัวร์ก็ไม่อยากพูด แต่นี่ก็เพิ่งเริ่มต้นเองนะ หนทางข้างหน้ายังอีกไกลแสนไกล” ประกายดาวยิ้มแหยๆ

หลังจากเจ๊พีชแต่งหน้าทำผมแต่งตัวให้ประกายดาวเสร็จ จันทรภานุอยู่ในชุดสูทเท่ยืนรอหน้าสตูดิโอ เจ๊พีชมาผายมือให้ประกายดาวเดินออกมาในชุดราตรีสวยสง่า เขาถึงกับตะลึงจนเจ๊พีชต้องสะกิดให้รู้สึกตัว ปรับท่าทีวางมาดเชิญประกายดาวขึ้นรถ ระหว่างนั่งในรถ ชายหนุ่มเห็นเธอนั่งยุกยิกๆ จึงถามว่าเป็นอะไร เธอตอบว่ารองเท้ากัดว่าแล้วก็ถอดออก

“แม่ฉันเคยสอนว่า ถ้ารองเท้ากัด  เราต้องกัดมันก่อน คุณชายว่ามันจะยังทันอยู่ไหมคะ” จันทรภานุเหวอนึกว่าจะทำจริง “ฉันล้อเล่นค่ะ ใครจะบ้ากัดรองเท้า ฉันแค่ถอดพักเท้าเท่านั้น”

จันทรภานุโล่งใจ กำชับ “พอเข้างานไปแล้ว อย่าทำให้ฉันขายหน้า”

ประกายดาวเบ้หน้ารับคำ...รถแล่นมาถึงหน้าสถานที่จัดงาน มีนักข่าวยืนออเต็มหน้างาน จันทรภานุให้ประกายดาวหันหลังมาก่อนจะลงจากรถ เพื่อสวมสร้อยเพชรให้ เขาควงเธอเข้างาน นักข่าวถ่ายภาพกันพึ่บพั่บ ได้ภาพหวานกันไป เสร็จจากงาน จันทรภานุขับรถมาส่งประกายดาวที่คอนโดฯ เธอถอดสร้อยคืนและบอกว่า ชุดจะซักแห้งให้ก่อน ชายหนุ่มตอบว่า

“ทั้งชุดทั้งสร้อย ฉันให้เธอ ตกลงตามนั้นแหละ ไม่ต้องปฏิเสธ”

ประกายดาวรับคำอย่างมึนงง...วันต่อมา ภาพข่าวการออกงานร่วมกันของจันทรภานุกับประกายดาวเป็นที่ฮือฮาของทุกคนมาก หม่อมสุรีย์เรียกลูกชายมาสอบถาม จันทรภานุอ้างเพิ่งเริ่มคบกันยังบอกอะไรไม่ได้ หม่อมสุรีย์ขัดใจถึงกับโทร.ไปขอให้ศิวะช่วยสืบประวัติประกายดาว

ด้านอรอุมา กังวลใจว่าศิวะจะกลับไปกิ๊กกะประกายดาวอีก ชวนรติรสมาดูหมอไพ่ยิปซี หมอทำนายว่า สามีกำลังมีกิ๊ก เป็นหญิงสาว สูง ผิวสองสี ตาโต ที่สำคัญมีไฝเม็ดใหญ่ในที่ลับ รติรสสะดุ้งเฮือก ทุกอย่างที่กล่าวมาตรงกับตัวเองทั้งนั้น หมอดูยังย้ำว่าเพราะไฝเม็ดนั้นที่ทำให้สามีกู่ไม่กลับ หลงหัวปักหัวปํา อรอุมารีบถามวิธีแก้

“ไพ่บอกว่า การมีบุตร แสดงว่าคุณต้องรีบมีบุตร เพราะลูกคือโซ่ทองคล้องใจ ถ้ามีลูกเมื่อไหร่ สามีจะเลิกกับผู้หญิงคนนั้นทันที”
รติรสหน้าเสีย ส่วนอรอุมาคิดว่า คืนนี้ต้องจัดชุดใหญ่เสียแล้ว

ooooooo

ตกดึก ประกายดาวกำลังจะเดินเข้าคอนโดฯ ศิวะโผล่มาจับแขนเธอไว้ เธอตกใจเงื้อหมัดชก เขารีบร้องห้าม เธอชะงักถามอย่างเสียมิได้ มาทำไม

“ดาวกำลังจะเดือดร้อนรู้ตัวไหม หม่อมสุรีย์ให้เราสืบประวัติดาวว่าเป็นใคร ถ้าหม่อมรู้ เราบอกได้เลยว่าดาวแย่แน่ๆ”

“มันจะแย่ยังไง ในเมื่อฉันไม่เคยทำอะไรเสื่อมเสีย”

“แต่หม่อมสุรีย์ท่านไม่รู้จักดาว ท่านไว้ใจเรา ท่านถึงให้เราช่วย เพราะฉะนั้นถ้าเราพูดอะไรที่เกี่ยวกับดาว หม่อมก็จะเชื่อทุกอย่าง”

“นายคิดจะทำอะไร...”

“ใจเย็นก่อนสิดาว ฟังเราพูดให้จบก่อน ความจริงเราไม่อยากทำร้ายดาวเลยนะ ถ้าดาวยอมเรา เท่านี้...เราก็จะไม่บอกหม่อม แล้วเราจะสัญญาว่าเราจะไม่ทิ้งดาวอีก เราจะดูแลให้ดาวสบาย” ศิวะลูบไล้แขนประกายดาว

ประกายดาวสุดขยะแขยงแต่แกล้งทำเป็นกระดิกนิ้วให้เขามาใกล้ๆ ศิวะหลงดีใจคิดว่าเธอยอม ยื่นหน้าเข้ามาก็ถูกเธอรวบต้นคอขึ้นเข่าเข้าเป้าอย่างแรง แถมชกเข้ามุมปากอีกหมัด เขาจุกหน้าเขียวลงไปกองกับพื้น

“นายนี่มันชาติชั่วจริงๆ ชาตินี้นายไม่มีทางได้แอ้มฉันหรอก” ประกายดาวโมโหเดินไป
คืนนั้น ศิวะกลับมาบ้านด้วยความเจ็บปวด กลับมาเจออรอุมาแต่งชุดนอนเซ็กซี่ พยายามยั่วยวน ศิวะทนไม่ไหวร้องลั่น อรอุมาตกใจเปิดไฟเห็นหน้าช้ำของสามีก็รีบถามโดนอะไรมา ศิวะโกหกว่าเดินชนเสาแล้วขอตัวเข้าห้องน้ำอย่างลนลาน อรอุมามองตามอย่างไม่ค่อยเชื่อ
วันรุ่งขึ้น ประกายดาวยังครุ่นคิดถึงคำพูดของศิวะ แล้วคิดว่าต้องหาทางป้องกัน จึงนัดเขาออกมาพบ...ศิวะหลงดีใจว่าประกายดาวเปลี่ยนใจ ประกายดาวหลอกถามให้เขาพูดเหตุผลที่จะสร้างประวัติด่างพร้อยให้กับเธอ เพราะหวังในตัวเธอ แล้วอัดเสียงไว้ พร้อมกับขู่ว่า ถ้าเขาทำร้ายเธอ คำพูดทั้งหมดนี้จะถึงหูอรอุมาเช่นกัน ศิวะแค้นใจเป็นอย่างยิ่ง

ooooooo

วันนี้ทั้งวัน ประกายดาวมีงานถ่ายคอนโดที่กำลังจะเปิดตัว จึงขอให้คุณหญิงนิ่มมารับภาพถ่ายแฟชั่นที่โครงการ คุณหญิงนิ่มขออยู่ดูเธอทำงาน ระหว่างนั้น พงศ์จันทรเห็นข่าวเปิดตัวเป็นแฟนกันของประกายดาวกับจันทรภานุ ก็รี่มาหา เผอิญโดนช่างสีทำสีกระเซ็นเปื้อนกางเกง

พงศ์จันทรเข้าห้องน้ำเพื่อจะล้าง แต่ไม่รู้จะยกขาขึ้นไปบนอ่างอย่างไร จึงถอดกางเกงเหลือแต่บ็อกเซอร์มาซัก คุณหญิงนิ่มเดินมาเข้าห้องน้ำตกใจคิดว่าเขาเป็นพวกโรคจิตเอากระเป๋าฟาดเขาโครมๆ ประกายดาวกับคนงานได้ยินเสียงร้องรีบวิ่งมาดู เข้าช่วยคุณหญิงนิ่ม แต่พอเห็นหน้าว่าเป็นพงศ์จันทรก็ประหลาดใจ พงศ์จันทรอับอายเสียหน้ามากกับสารรูปตัวเอง

ประกายดาวช่วยไกล่เกลี่ยแนะนำให้สองคนรู้จักกัน แต่ดูทั้งสองจะไม่กินเส้นกัน เพราะคุณหญิงนิ่มไม่ชอบที่เขามาจีบประกายดาว ส่วนพงศ์จันทรเคืองที่เธอเป็นญาติจันทรภานุ

ศิวะจำต้องมารายงานหม่อมสุรีย์ตามจริงว่าประกายดาวมีประวัติดีไม่ด่างพร้อย  นมพรยินดีด้วย แต่หม่อมสุรีย์ยังถือยศถาบรรดาศักดิ์ อยากได้คนมีชาติตระกูล...

นันทินีเสนอให้ชวนประกายดาวมาทานอาหารที่วัง เพื่อให้เธอรู้สึกต่ำต้อย เข้าเจ้าเข้านายไม่ถูก จะได้ล่าถอยไปเอง

จันทรภานุมาบอกประกายดาวตามคำชวนของหม่อมแม่ เขารู้สึกต้องมีอะไรแอบแฝงแน่จึงกำชับประกายดาวให้ทำตัวดีๆอย่ามีพิรุธใดๆ ห้ามแสดงความห้าวออกมา ให้แอ๊บอ่อนหวานเข้าไว้ ประกายดาวเหนื่อยใจดูท่าจะยากเย็น...จันทรภานุเลือกเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้าให้ประกายดาวอย่างที่เขาต้องการ เธอหน้าเหยเกต้องลองเสื้อ รองเท้ามากมายให้เขาดูจนเซล้ม คุณชายเข้าประคอง ทั้งสองชะงักหน้าประชิดกัน  ใจเต้นโครมคราม ประกายดาวรู้สึกตัวผละออก

ooooooo

มิลินทร์กลับมาจากต่างประเทศ รู้เรื่องที่ประกายดาวรับเป็นแฟนปลอมๆกับจันทรภานุแล้วกำลังไปให้หม่อมสุรีย์ดูตัวก็กังวลใจเป็นห่วงเพื่อน

“จะตัดสินใจทำอะไรลงไป ทำไมไม่โทร.ปรึกษาฉันก่อน ฉันบอกได้เลยว่าแกคิดผิด เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนมาก เป็นเรื่องที่สังคมยังไม่ยอมรับ ถ้าแกบอกเขาไปว่าอยากได้อะไรตอบแทน แกได้โดนเขาด่าเปิงแน่”

ทั้งประกายดาวและจิตสุภางค์คิดตามชักหวั่นใจ พอดีแดนดินไปเที่ยวญี่ปุ่นกลับมา แวะเอาของมาฝากสาวๆพอรู้เรื่องข่าวของน้องสาวก็โวยวายยกใหญ่ กลัวโดนประณามต้องอับอายไปทั้งตระกูล ประกายดาวเริ่มเครียดเก็บเอาไปนอนฝัน ว่าพอจันทรภานุรู้ว่าตนขอสเปิร์มเป็นค่าตอบแทนที่เป็นแฟนปลอมๆให้เขา  เกิดเรื่องใหญ่โต หม่อมสุรีย์สั่งให้คุณชายแต่งงานกับนันทินี แดนดินกับเพื่อนๆตัดขาดจากเธอเพราะอับอายที่โดนประณาม ข่าวโจมตีว่าเธอทำให้หญิงไทยเสียชื่อ เป็นนักล่าสเปิร์ม ประกายดาวสะดุ้งตื่นเหงื่อแตกกราน รู้สึกกลัวสุดๆ

รุ่งเช้า คุณหญิงนิ่มเป็นคนมารับประกายดาวไปที่วัง สีหน้าประกายดาวอิดโรย พอมาถึงวังปรากฏว่าหม่อมสุรีย์ชวนนันทินีมาร่วมโต๊ะอาหารด้วย เธอพาเดินชมวังให้ดูความใหญ่โตโอ่อ่าและเล่าประวัติความเป็นมาของตระกูล ให้ประกายดาวรู้สึกต่ำต้อยที่มาจากพ่อแม่ขายข้าวขาหมู แต่ประกายดาวก็ทำใจสู้...ถึงเวลาทานอาหาร บนโต๊ะ มีช้อนและแก้วน้ำวางเรียงราย

นันทินีเหน็บ “ถ้าหยิบจับอะไรไม่ถูก บอกได้เลยนะคะ นันเข้าใจว่าคุณคงจะทานแต่ข้าวราดแกง อาหารแบบนี้คงเพิ่งทานเป็นครั้งแรก”

ประกายดาวปรายตามองไม่ตอบโต้อะไร แต่แสดงออกถึงการใช้อุปกรณ์ได้ถูกต้อง คุณหญิงนิ่มกับจันทรภานุแอบยิ้ม ประกายดาวเปรย

“ตอนดาวเรียนที่นิวยอร์ก ดาวมีเพื่อนเป็นเจ้าชายโมนาโคค่ะ  เขาเคยพาดาวไปเที่ยววังของเขา ใหญ่โตกว่าที่นี่มาก วังหม่อม 10 ไร่ แต่ของเพื่อนดาว เนื้อที่วังเท่ากับภูเขาลูกใหญ่ๆสามลูกติดกัน” ประกายดาวยิ้มก้มหน้ารับประทาน หม่อมสุรีย์กับนันทินีเหล่มองกัน

หลังจากทานอาหารพูดคุยกันสักพัก ประกายดาวลากลับอมยิ้มอย่างผู้ชนะ  หม่อมสุรีย์เชิดนิดๆ ก่อนจะหันมาต่อว่านันทินีที่ีแผนของเธอไม่ได้ผลอะไรเลย

ระหว่างเดินมาที่รถ คุณหญิงนิ่มถามประกายดาวว่าเป็นเพื่อนกับเจ้าชายโมนาโคจริงหรือ เธอตอบทันทีว่าไม่จริง โม้ไปอย่างนั้นเอง จันทรภานุหาว่าเธอปั้นน้ำเป็นตัวได้เก่ง

“ชื่นชมฉันเหรอคุณชาย”

“ผมไม่ได้ชื่นชม ผมว่าผมชักจะกลัวๆคุณซะแล้ว เพราะไม่รู้ว่าเรื่องที่คุณพูด อันไหนคือเรื่องจริง อันไหนคือเรื่องโกหก”

“มันก็ต้องแล้วแต่สถานการณ์ค่ะ ฉันไม่ใช่คนโกหกพร่ำเพรื่อ”

คุณหญิงนิ่มเห็นจะไปกันใหญ่รีบปรามยังไม่พ้นประตูวัง เกรงใครจะมาได้ยิน  ตนจะไปส่งประกายดาวเอง จันทรภานุยอมหยุดและยิ้มขอบคุณ...พอมาถึงคอนโดฯ พบพงศ์จันทรรออยู่ที่ล็อบบี้  เขาปรี่เข้าทักทายประกายดาว ทำเหมือนไม่เห็นคุณหญิงนิ่มแม้แต่น้อย ทำให้คุณหญิงนิ่มโกรธ  อยู่กีดกันให้เขาไม่มีโอกาสพาประกายดาวออกไปไหน แต่เขาก็ไม่ท้อ

“ไม่เป็นไรครับ ผมรอได้ ถึงจะมีมารมาผจญ แต่ก็ไม่สามารถขัดขวางไม่ให้ผมเจอกับคุณดาวได้หรอกครับ” พงศ์จันทรมองคุณหญิงนิ่มอย่างเคียดแค้น เธอจ้องกลับ ตาต่อตาฟันต่อฟัน

คุณหญิงนิ่มตามขึ้นมาบนห้อง บ่นว่าพงศ์จันทรตื๊อน่ารำคาญ  ประกายดาวเห็นว่าเขาพอคบเป็นเพื่อนได้ คุณหญิงบอกตามตรงอยากให้เธอเป็นแฟนกับจันทรภานุจริงๆทำเอาประกายดาวสำลักน้ำ รีบค้านเป็นไปไม่ได้ แต่คุณหญิงไม่เชื่ออ้างขนาดสิงโตยังผสมพันธุ์กับเสือได้ ประกายดาวยิ้มแหยๆพูดไม่ออก

จากนั้น คุณหญิงนิ่มมาพบเพื่อนๆที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง เผอิญเห็นพงศ์จันทรนั่งทานอาหารคนเดียว จึงเข้าไปเยาะ ทานข้าวคนเดียวเหงาไหม ชายหนุ่มเงย หน้ามองเซ็งๆ

“สำหรับผม ผู้หญิงมีความสวยกันทุกคน อาจจะสวยจากภายในไม่ใช่ภายนอก แต่สำหรับคุณ ผมดูยังไงก็ไม่สวย แถมยังชอบทำให้ผมซวยอีกต่างหาก”

คุณหญิงนิ่มโกรธไม่เคยมีใครพูดกับตนแบบนี้มาก่อน ชายหนุ่มย้ำจะได้เคยชิน คุณหญิงไม่พอใจอย่างมาก หาทางแก้แค้นด้วยการใส่เกลือในเครื่องดื่มที่พนักงานกำลังเอาไปเสิร์ฟเขา พงศ์จันทรดื่มเข้าไปถึงกับสำลักพรวดออกมา พนักงานหลบตาอย่างกลัวๆ เขาจึงรู้ว่าเป็นฝีมือคุณหญิงนิ่มแน่ๆ

พงศ์จันทรดักรอคุณหญิงนิ่มเพื่อเอาคืนบ้าง แกล้งดันเธอติดกำแพงทำเลียปาก “รสชาติน้ำดื่มผสมเกลือของคุณ ยังอยู่ในปากผมอยู่เลย อยากลองชิมดูไหมว่ามันเค็มขนาดไหน”

คุณหญิงหน้าตื่นย่อตัวหลบมุดแขนเขาออกมาโวย “นายนี่มันเป็นไอ้โรคจิตชัดๆ”

“ถ้าผมเป็นไอ้โรคจิต คุณก็เป็นเหมือนกัน คุณแกล้งผมทำไมห๊ะคุณหญิง”

“ก็นายมายุ่งกับพี่ดาวทำไม”

พงศ์จันทรโต้ทำไมจะยุ่งไม่ได้ คุณหญิงนิ่มเสียงเข้มว่าประกายดาวเป็นแฟนคุณชายจันทร์ พงศ์จันทรกลับหาว่ามีแต่เธอพูดฝ่ายเดียว ไม่เห็นประกายดาวจะยอมรับเลย คุณหญิงเถียงไม่ออก ชายหนุ่มขู่ โกหกเป็นบาปตกนรกโดนตัดลิ้น คุณหญิงขัดใจทำฮึดฮัดเดินหนี ยิ่งทำให้พงศ์จันทรสงสัยมากขึ้น

ooooooo


อภิเชษฐ์ชอบใจเมื่อฟังเรื่องประกายดาวทำให้หม่อมสุรีย์อึ้ง จึงยุให้เพื่อนเป็นแฟนกับเธอจริงๆ แต่จันทรภานุยังคิดถึงแพทแฟนเก่า...เธอทิ้งเขาไปเพราะ ได้ทุนเรียนปริญญาโทและเอกต่อที่อเมริกา ความใฝ่ฝันของเธออยากเป็นหมออยู่ที่นั่น จึงเลือกขอเลิกกับเขา ทั้งที่เธอก็รักเขามาก

ภาพข่าวออกงานของจันทรภานุกับประกายดาว ทำให้อรอุมาปิดหนังสือพิมพ์ที่นั่งอ่านระหว่างทำผม บ่นกับรติรสว่า ทำไมประกายดาวถึงได้ดิบได้ดี รติรสหาว่าประกายดาวให้ท่าจับคุณชายจันทร์ เผอิญนันทินีนั่งทำผมอยู่ในร้านเดียวกัน ได้ยิน จึงดักรอขอคุยกับสองสาว
“ฉันได้ยินคุณสองคนพูดถึงยัยประกายดาว...ฉันมีเรื่องอยากเจรจาด้วย”

สามสาวมานั่งคุยกันในร้านกาแฟ อรอุมาฟังเรื่องของนันทินีแล้วเอ่ยว่า ใครที่เป็นศัตรูกับประกายดาว ถือเป็นเพื่อนของพวกตน สามสาวช่วยกันวางแผน

“ถ้าจะเล่นงานนังนี่ เราต้องคิดตรึกตรองให้ดี เพราะว่ามันไม่ใช่คนโง่” อรอุมาเกริ่น

“ช่วงนี้ฉันกับอรจะช่วยกันหาข้อมูลที่เป็นจุดอ่อนของนังประกายดาวเพื่อเล่นงานมัน ส่วนคุณก็จับตาดูคุณชายจันทร์เอาไว้ให้ดี คุณชายไปไหนคุณต้องไปด้วย อย่าให้คลาดสายตาเด็ดขาด ไม่งั้นนังนั่นมันคาบคุณชายไปรับประทานแน่”

“ฉันคิดไม่ผิดจริงๆที่มาขอความช่วยเหลือจากพวกคุณ ยินดีที่เราได้ร่วมงานกัน” สามสาวจับมือกัน
ขณะที่ประกายดาวทำงานล้างรูปอยู่ เจ๊พีชโทร.มาว่ามีงานด่วน ถ่ายภาพรีสอร์ตที่เขาใหญ่ พอวางสาย เจ๊พีชหันมายิ้มกับพงศ์จันทร บอกเขาว่าประกายดาวตกลง แต่ขออย่าให้เธอรู้ว่าตนโกหกช่วยเขา พงศ์จันทรรับรองจะรูดซิบปาก เจ๊พีชไม่เข้าใจว่าเขาจะวอแวกับประกายดาวทำไม

“ผมรู้สึกว่าการเป็นแฟนกันของทั้งสองคน มันดูแปลกๆเหมือนแกล้งทำ นี่ผมคิดตามสัญชาตญาณของผมนะครับ ผมจะหาทางพิสูจน์ว่าสิ่งที่ผมคิด ถูกต้องหรือไม่ ถ้าเขาเป็นแฟนกันจริงๆ ผมก็จะเลิก แต่ถ้าไม่...ผมก็จะเดินหน้าพิชิตหัวใจคุณดาวมาให้ได้”...เจ๊พีชถึงกับร้องว้าว

บ่ายวันนั้น จันทรภานุนัดประกายดาวไปพบที่แผนกของเด็กเล่นในห้างฯ เธอมาถึงเห็นเขากำลังเล่นหุ่นยนต์เหมือนเด็กๆก็แอบหัวเราะ เขาหันมาเจอรู้สึกเขิน เก๊กมาดขรึมให้เธอช่วยเลือกของเล่นเด็กผู้หญิง เพื่อไปแจกเด็กๆ เขาหันมาชวน

“พรุ่งนี้ผมจะไปโรงเรียนที่ผมไปสร้างห้องสมุดให้ ไปด้วยกันนะ”

ประกายดาวยิ้มแหยๆปฏิเสธว่าไปไม่ได้ติดงาน จันทรภานุเสนอเงินค่าจ้างให้อีกเท่าตัว หญิงสาวถอนใจ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับเงิน แต่อยู่ที่ตนรับปากและสัญญาไว้แล้ว ทำเอาคุณชายเซ็ง...

ooooooo

วันต่อมา ประกายดาวเดินทางมาถึงรีสอร์ตพร้อมเจ๊พีช ต้องแปลกใจเมื่อพงศ์จันทรออกมาต้อนรับ เจ๊พีชรีบออกตัวไม่รู้ไม่เห็นอะไรด้วย  แค่รับงานให้เธอเท่านั้น
“ดาวยังไม่ได้ว่าอะไรสักคำ อย่าร้อนตัวสิคะเจ๊... ความจริงคุณโทร.หาฉันโดยตรงก็ได้ ทำไมต้องผ่านเจ๊พีช แบบนี้เจตนาดูไม่บริสุทธิ์นะคะ”

“ผมก็กลัวคนของคุณดาว เอ่อ คุณชายจันทร์จะเข้าใจผิดน่ะครับ ก็เลยให้เจ๊พีชช่วยโทร.ให้จะดีกว่า พอคุณดาวทำงานเสร็จแล้ว ผมมีโบนัสให้ นอกจากค่าตัวคุณดาวด้วยนะครับ”

“อะไรคะ...”

“ผมรู้จากเจ๊พีชว่าคุณดาวชอบปีนเขามาก ผมเองก็เป็นนักปีนเขาตัวยงคนหนึ่งเหมือนกัน ผมจะพาคุณดาวไปปีนเขาครับ”

“ถ้างั้นค่าตัวฉันไม่ต้องให้ก็ได้ รีบทำงานกันเถอะค่ะ แค่ฟังก็อยากจะแย่แล้ว”

พงศ์จันทรดีใจที่ประกายดาวชอบ...เขาพาเธอมาดูรีสอร์ตที่ใกล้จะเปิดตัว เพื่อถ่ายภาพลงโบรชัวร์และอินเตอร์เน็ต โดยเน้นการอยู่อาศัยกับธรรมชาติ ประกายดาวเดินถ่ายภาพไปเรื่อยๆ พงศ์จันทรมองตามยิ้มอย่างมีเลศนัย

ด้านจันทรภานุ เดินทางมาโรงเรียนที่สร้างห้องสมุดให้ อยู่ใกล้ๆกับเขาใหญ่ มีหม่อมสุรีย์ คุณหญิงนิ่มและนันทินีมาด้วย นักข่าวมาทำข่าวถามถึงประกายดาว
คุณชายต้องตอบไปว่าเธอไม่ว่าง นันทินีพยายามยืนเคียงข้างเขาเพื่อให้นักข่าวถ่ายภาพ คุณหญิงนิ่มหมั่นไส้คอยกีดกัน

“ขอโทษนะคะคุณนัน หญิงกลัวพี่ดาวจะเข้าใจผิด คุณนันไปยืนข้างหม่อมป้าก็แล้วกันนะคะ”

นันทินีฝืนยิ้มไม่กล้าโวยวายต่อหน้าหม่อมสุรีย์และนักข่าว จันทรภานุแอบกระซิบคุณหญิงนิ่มว่าจะทนไม่ไหวอยู่แล้วที่นันนินีคอยเกาะแจ คุณหญิงสบถ ทำตัวเหมือนตุ๊กแก เธอแนะให้โทร.ตามประกายดาวมาร่วมงาน จันทรภานุจึงลองโทร.เจ๊พีชถือกระเป๋าให้ประกายดาวเห็นหน้าจอขึ้นชื่อ จะเอามือถือไปยื่นให้ประกายดาว พงศ์จันทรรู้แกวอาสาเอาไปให้เอง แต่เขาแอบกดวางสายแล้วปิดเครื่องไปเลย จันทรภานุแปลกใจ คุณหญิงนิ่มปลอบว่าคงติดงานอยู่

เสร็จงาน คุณหญิงนิ่มต้องกันไม่ให้นันทินีนั่งรถ ข้างจันทรภานุอีก หม่อมสุรีย์ชวนแวะทานอาหารร้านโปรด...ด้านประกายดาวถ่ายรูปจนทั่ว พงศ์จันทรทำที ช่วยเจ๊พีชถือกระเป๋า แล้วแอบหยอดมือถือของประกายดาวลงในกระเป๋า จากนั้นพากันมาหาอะไรทานก่อนจะไปปีนเขา

คุณหญิงนิ่มคอยกันท่านันทินีทุกวิถีทาง ไม่ให้ใกล้ชิดกับจันทรภานุ พลันเห็นประกายดาวเดินเข้ามาในร้านกับพงศ์จันทรและเจ๊พีช จันทรภานุรีบขอตัวอ้างโทรศัพท์สั่งงานลูกน้อง...ประกายดาวกำลังโดนพงศ์จันทรกับเจ๊พีชซักไซ้ว่าไปเป็นแฟนกับคุณชายได้อย่างไร

“ผมจำได้ว่า ผมเจอคุณดาวก่อนไปฮ่องกงไม่นาน หลังจากนั้นไม่กี่วัน คุณก็เป็นแฟนกับคุณชายซะแล้ว”

“เออนั่นสิน้องดาว พี่ก็อยากรู้” เจ๊พีชสมทบ
ประกายดาวตอบอึกๆอักๆว่าความรักบางทีมันไม่ต้องใช้เวลานาน แต่พงศ์จันทรไม่อยากเชื่อเพราะใครๆก็รู้ว่าคนอย่างคุณชายจันทร์เลือกมากแค่ไหน ประกายดาวอึดอัดใจขอตัวไปห้องน้ำ...ออกจากห้องน้ำตกใจเพราะเจอจันทรภานุยืนรออยู่ เขาต่อว่าทันที

“มิน่า ว่าทำไมผมโทร.หาแล้วถึงไม่รับสาย แถมยังปิดเครื่อง”

“ฉันมาทำงาน”

“แน่ใจว่ามาทำงาน ไม่ใช่ว่ามาเที่ยวกับผู้ชายคนอื่นจนลืมหน้าที่ของตัวเอง”

“หน้าที่อะไร...”

“คุณแสดงเป็นแฟนผมอยู่นะคุณดาว คุณลืมไปแล้วหรือไง เพราะฉะนั้นคุณไม่ควรทำประเจิดประเจ้อกับคนอื่น ถ้าใครเห็นเข้า แล้วไปบอกหม่อมแม่ แผนทุกอย่างของผมก็พังไม่เป็นท่ากันพอดี”

ประกายดาวอึ้งเถียงไม่ออก...หม่อมสุรีย์เห็น

จันทรภานุหายไปนาน  คุณหญิงนิ่มอาสาไปตาม  พงศ์จันทรก็เป็นห่วงประกายดาวจึงลุกมาตามเช่นกัน สองคนเลี้ยว มาชนกันมุมหนึ่งในร้าน เกิดการถกเถียงกัน คุณหญิงนิ่มไม่อยากให้พงศ์จันทรไปเจอประกายดาวอยู่กับจันทรภานุ ด้านประกายดาวยอมรับผิดกับจันทรภานุ สัญญาจะไม่ทำอีก แล้วขอตัวกลับไปที่โต๊ะ จันทรภานุโวยไม่ให้กลับไปนั่งกับชายอื่น บังเอิญนันทินีเดินมาตามเห็นสองคนเหมือนทะเลาะกันรีบแอบมอง

“เอ๊ะ คุณชาย ฉันไม่ใช่แฟนจริงๆของคุณชายไม่ ต้องมาทำหึงหรอกน่า”

“ผมไม่ได้หึง แต่หม่อมแม่กับคุณนันอยู่ที่นี่ด้วย เพราะฉะนั้น นับตั้งแต่วินาทีนี้คุณคือแฟนผม”

“งั้นก็ให้ฉันไปบอกคุณพงศ์จันทรก่อน อยู่ๆ หายตัวไปมันเสียมารยาท”

นันทินีไม่ได้ยินที่สองคนเถียงกัน เห็นแต่ท่าทาง จึงคิดแผนร้ายกลับไปกระซิบนักข่าว...จันทรภานุจะไปบอกพงศ์จันทรเองว่าประกายดาวต้องไปกับตน ประกายดาวไม่ยอมเดินเลี่ยงออกมา เจอหญิงนิ่มกับพงศ์จันทรอยู่พอดี สองหนุ่มประจันหน้ากัน พอจันทรภานุบอกว่า ประกายดาวจะกลับกับตน พงศ์จันทรไม่ยอมอ้างว่าเธอจะไปปีนเขาด้วยกัน ทันใด ก็มีนักข่าวมาถ่ายภาพกันใหญ่ นันทินีประคองหม่อมสุรีย์เข้ามา ทำทีอ้าง

“พี่นักข่าวเห็นคุณชายกับคุณดาวมีปากเสียงกัน แถมยังมีคุณพงศ์จันทรอีกคน ก็เลยเข้าใจไปว่าคุณดาวนอกใจคุณชายจันทร์น่ะค่ะ แต่ไม่ต้องห่วงนะคะ นันห้ามไม่ให้เขาเอาภาพลงแล้ว ไม่งั้นมันจะเสียชื่อเสียงของคุณชาย”

จันทรภานุให้คุณหญิงนิ่มตามนักข่าวมาทั้งหมด แล้วประกาศ “ผมกับคุณดาวแฟนผม เราไม่ได้ทะเลาะกัน ไม่ได้มีมือที่สาม เราแค่พูดคุยกันเฉยๆใช่ไหมคะ...เราสองคนรักกันจะตาย” ว่าแล้วคุณชายก็หอมแก้มประกายดาวโชว์

ประกายดาวสะดุ้ง คนอื่นๆอ้าปากค้าง คุณหญิงนิ่มอมยิ้มชอบใจ จันทรภานุยํ้าว่าถ่ายรูปลงข่าวอย่าลืมเขียนด้วยว่า เราสองคนรักกันมากแค่ไหน ประกายดาวจำต้องฉีกยิ้มอย่างเสียมิได้ นันทินีกับพงศ์จันทรหน้าตึง ...หลังจากนั้น จันทรภานุมาเข้าห้องนํ้า เช็ดถูปากที่ไปหอมแก้มประกายดาว เธอเดินตามเข้ามาทั้งที่เป็นห้องนํ้าชายด้วยความโกรธ ต่อว่าทำแบบนี้ได้อย่างไร

“มันเป็นแค่การแสดง ผมไม่ได้อยากหอมแก้มคุณซักนิด ไม่งั้นผมไม่มาล้างปากอยู่แบบนี้หรอก”

“รังเกียจฉันมากเหรอไง”

“ไม่ได้รังเกียจ แต่คุณไม่ได้คู่ควรกับผม”

“ฉันไม่เคยเห็นใครหลงตัวเองอย่างคุณมาก่อนเลยนะคุณชาย สุดยอด...” ประกายดาวโกรธสะบัดหน้ากลับออกไป ไม่มีใครเห็นว่าพงศ์จันทรแอบฟังอยู่หน้าห้องน้ำ

จันทรภานุบอกหม่อมสุรีย์ว่าตนจะไปปีนเขากับประกายดาว...พงศ์จันทรไม่ค่อยพอใจแต่จำต้องติดอุปกรณ์ และอธิบายเบสิกการปีนเขาแก่จันทรภานุ และย้ำให้ระวังหินมีความคม คุณหญิงนิ่มกับนันทินียืนเชียร์อยู่ข้างล่าง พงศ์จันทรและประกายดาวปีนอย่างคล่องแคล่ว จันทรภานุค่อยๆไต่เพราะเป็นครั้งแรก หม่อมสุรีย์กับเจ๊พีชนั่งมองอยู่ในร้านกาแฟห่างออกไป

ประกายดาวปีนไปก็เหลียวมองจันทรภานุด้วยความเป็นห่วง ทำให้เสียสมาธิ เหยียบหินพลาดหล่น จันทรภานุเข้าโอบเอวแต่ทั้งสองเหวี่ยงไปกระแทกหน้าผา หัวเข่าประกายดาวเลือดออก จันทรภานุถลอกที่แขน พอลงมาถึงพื้น จันทรภานุรีบอุ้มประกายดาวไปทำแผล คุณหญิงนิ่มยิ้มยั่วกระเซ้านันทินี

“พี่ชายดูรักและเป็นห่วงพี่ดาวมากเลยนะคะ พี่นันว่าไหม”

จันทรภานุลงมือทำแผลให้ประกายดาวเอง หม่อมสุรีย์เข้ามาปรามว่าตัวเองก็เจ็บเหมือนกัน แต่เขากลับบอกว่าไม่เท่าไหร่ จากนั้น เขาบอกเจ๊พีชว่าจะไปส่งประกายดาวเอง เจ๊พีชยิ้มอย่างยินดี แล้วหันมาเปรยกับพงศ์จันทรที่ยืนหน้าบึ้งว่า

“เจ๊ว่า ดูท่าทางคุณชายกับน้องดาวน่าจะเป็นแฟนกันจริงๆ เพราะคุณชายดูเทกแคร์มากๆ”

กลับถึงวัง จันทรภานุขับรถไปส่งประกายดาวอีกที หม่อมสุรีย์อ่อนใจ ทิ้งบอมบ์กับนันทินีว่า “ขืนปล่อยไว้นานก็นี้ เราจะทำให้เขาสองคนเลิกกันยากมากขึ้น หนูนันต้องรีบหาทาง ไม่อย่างนั้น แม่ก็ช่วยอะไรไม่ได้แล้วนะ”...นันทินียืนกลัดกลุ้มสุดๆ

นันทินีนัดอรอุมากับรติรสออกมาเจอกันที่ร้านกาแฟ เพื่อระบายความอัดอั้นที่แยกประกายดาวกับจันทรภานุออกจากกันไม่ได้ รติรสจึงวางแผนให้ใหม่ แล้วกระซิบอรอุมาว่าให้นันทินีออกหน้า เกิดอะไรขึ้นพวกเราจะได้รอด อรอุมายิ้มอย่างพอใจ

ooooooo

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น