วันเสาร์ที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2556

อ่านเรื่องย่อ ต้นรักริมรั้ว ตอนที่ 3

อ่านเรื่องย่อ ต้นรักริมรั้ว ตอนที่ 3

แม้ว่ากษิดิฐจะเป็นคนสนุกเฮฮาทะเล้นหน้าเป็นได้ทุกเรื่อง แต่ลึกๆแล้วเขามีความละเอียดอ่อนและรู้สึกผิดชอบชั่วดีต่อเรื่องต่างๆ เพียงแต่ไม่แสดงออก

ด้วยความเป็นห่วงนลินที่วันนี้เผชิญปัญหาหนักๆ ทั้งเรื่องกับแตงกวาและเรื่องต้องเร่งหาคนที่จะอุปโลกน์มาเป็นแฟนเพื่อรักษา ตำแหน่งหน้าที่การงานของตัวเอง คืนนี้เขาจึงมายืนเกร่อยู่แถวประตูบ้าน กมลามาเจอดักคอว่ามาออกกำลังหรือ เขาตอบไม่ทันคิดว่ามาดูพระจันทร์ เลยถูกยศภัทรขัดคอว่า คืนนี้เดือนมืด ไม่มีพระจันทร์

“ก็ได้ๆ ผมยอมรับก็ได้ว่าดักรอบัว”

“ยอมสารภาพไม่เหลือคมอย่างนี้ แปลว่าไปทำปัญหาให้หนูบัวโกรธอีกใช่ไหม?!” กมลาดักคอ

“เอา น่าแม่...เดี๋ยวกบเอาของกินล่อ หนูบัวก็หายโกรธเหมือนทุกครั้งนั่นแหละ” ยศภัทรพูดกลั้วหัวเราะ แต่ครั้งนี้กษิดิฐไม่ขํา เขาพูดเซ็งๆหงอยๆว่า

“คราว นี้เอาของกินมาล่อเป็นถัง บัวก็ไม่สนแล้วล่ะพ่อ ไหนจะเรื่องแตงกวา ไหนจะเรื่องที่บัวต้องหาผู้ชายที่ไหนไม่รู้ไปโชว์เจ้านาย ทุกอย่างเป็นเพราะกบทั้งนั้น คราวนี้...นอกจากบัวจะไม่ยอมคุยกับกบ อาจจะเอาอีโต้มาฟันหัวกบเลยก็ได้”

“กบบบบบบบ...” เสียงหวานจ๋อยของนลินแว่วมา ยศภัทรทําหน้าล้อๆ บอกลูกชายว่าเสียงหวานขนาดนี้ถ้าไม่ใช่เพราะหายโกรธก็คงเพราะโกรธมากจนบ้าไป แล้ว
นลินเดินยิ้มแย้มเข้ามาจนทุกคนแปลกใจ

“คุณลุง คุณป้าขา...บัวขอพากบไปออฟฟิศแป๊บนึงนะคะ” ว่าแล้วควงแขน “ไปกันเถอะกบ เราเสียเวลามามากแล้ว” เธอควงแขนไปที่รถของเขา
นลินให้กษิดิฐขับรถไปที่ออฟฟิศของเขา แต่ไม่ยอมบอกว่าไปทําไม

พอไปถึงก็ทำทีถามโน่นถามนี่จนกษิดิฐทนไม่ไหวถามว่าตกลงที่มานี่ต้องการทำอะไรกันแน่

“ทำการ์ด”

กษิดิฐนึกได้ทันที ถามว่าทําการ์ดแต่งงานที่จะเอาไปให้เจ้านายหรือ? หาเจ้าบ่าวได้แล้วใช่ไหม? ไปได้มา จากไหน? เขาถามเป็นชุด นลินทําเสียง อื้อฮึ...อื้อฮึ...แต่พอคำถามสุดท้ายที่ถามว่าได้เจ้าบ่าวมาจากไหน เธอตอบหน้าตาเฉยว่า

“ข้างถนน!”

“นี่จนตรอกต้องไปเอาคนไม่มีหัวนอนปลายเท้ามาเป็นแฟนเลยเหรอ!...มันเป็นใคร?!”

“ถ้าอยากรู้ก็รีบทำการ์ดสิ เดี๋ยวตอนใส่ชื่อเจ้าบ่าว บัวจะบอกว่าใคร” เธอยังลีลากวนประสาทจนกษิดิฐหงุดหงิดเดินงุดๆไปที่คอมพิวเตอร์  ถามเหวี่ยงๆ “ตกลงเจ้าบ่าวชื่ออะไร”

นลินก็ยังกวนประสาทไม่ยอมบอกชื่อ แต่ให้เขาเลือกลายการ์ดให้ได้ก่อน กษิดิฐเลือกลายการ์ดไปบ่นไปอย่างหงุดหงิด

“บัวคิดว่าทำอย่างนี้แล้วเรื่องทุกอย่างจะจบเหรอ...ถ้าเกิดเจ้านายบัวจะไปร่วมงานด้วย บัวไม่ต้องแต่งงานกับผู้ชายที่บัวไปคว้ามาจากข้างถนนจริงๆเหรอ”

นลินเลี่ยงที่จะตอบ เอาแต่เร่งให้เขารีบเลือกลายการ์ดและรีบพิมพ์เร็ว เพราะนี่ก็สี่ทุ่มกว่าแล้ว

ooooooo

ที่บ้านแตงกวา อภิชาติคอยแตงกวาอยู่ เธอกลับมาอย่างสบายใจ เห็นพ่อยังนั่งอยู่ถามอย่างแปลกใจว่า

“อ้าว...คุณพ่อ ไหนว่าพรุ่งนี้มีประชุมที่สิงคโปร์ไม่รีบเดินทางไปคืนนี้เหรอคะ”

“เลิกยุ่งกับผู้ชายคนนั้นซะ!” อภิชาติเสียงเข้ม แต่แตงกวาเดินลอยชายไปไม่สนใจ ถูกพ่อดึงแขนไว้อย่างแรง พูดเสียงเข้มกว่าเก่า “พ่อทนกับผู้ชายคนนี้มามากแล้ว พ่อเป็นถึงผู้ช่วยรัฐมนตรีนะ แต่มาโดนไอ้กระจอกที่ไหนไม่รู้มาตอกใส่หน้าว่า ไม่เอาลูกสาวตัวเอง! เลิกกับมันเสีย!!”

“ไม่! แตงกวาไม่มีวันเลิกกับกบ!” แตงกวาเสียงเข้มกว่า

“ไม่เห็นเหรอว่ามันไม่ยอมแต่งกับลูก มีศักดิ์ศรีเสียบ้างซิ!”

“พ่อไม่เข้าใจหรอก เอาเป็นว่าแตงกวายืนยันว่าวันแต่งงานของกบกับแตงกวาจะต้องเกิดขึ้น กบไม่อยากทำอะไรก็ไม่ต้องทำ แตงกวาจะจัดการทุกอย่างเอง ขอบคุณคุณพ่อที่อุตส่าห์เสียสละเวลาอันมีค่ามาพูดเรื่องนี้” เธอพูดประชดแล้วสะบัดขึ้นบันไดไปเลย อภิชาติหัวเสียมากหยิบมือถือกดโทร.ออกทันที

“ฮัลโหล...คุณณุกา ผมอยากจะคุยกับคุณเรื่องแตงกวากับคุณติณณ์”

เวลาเดียวกัน พอแตงกวาเข้าห้องนอน นึกถึงภาพที่กษิดิฐกับนลินล้มทับจนหน้าเกือบสัมผัสกันก็ยิ่งเจ็บใจ ยกมือถือโทร.ออกทันที “ฮัลโหล...สวัสดีค่ะพี่ต๋อง...แตงกวาอยากปรึกษาเรื่องจัดงานแต่งค่ะ”

เมื่ออภิชาติเดินทางไปสิงคโปร์แล้ว เขาไปคุยกับอณุกาที่โรงแรม ถามว่าติณณ์จะกลับมาเมื่อไร?

พอรู้ว่าอีก 3 เดือน อภิชาติถอนใจหนักหน่วง บ่นให้ฟังว่า

“นี่ถ้าแตงกวาไม่มัวตามนายกษิดิฐ  ผมคงส่งแตงกวาไปเกาหลีแล้ว จะได้รู้จักกับคุณติณณ์สักที” ปราณถามว่า กษิดิฐคือใคร อณุกาก็ระแวงว่า อย่าบอกนะว่าเป็นแฟนของแตงกวา “ผมไม่ยอมรับผู้ชายห่วยๆคนนั้นเป็นอะไรกับลูกสาวผมหรอก มันไม่มีอะไรคู่ควร ผมอยากให้มันไปจากชีวิตแตงกวาเสียที”

“ใจเย็นๆ นะคะ ถ้ามีอะไรที่ณุกาช่วยได้ ท่านก็บอกเลยค่ะ เพราะท่านก็ช่วยบริษัทของณุกาไว้มาก ณุกาไม่รู้จะตอบแทนยังไง”

“ผมอยากให้แตงกวารู้จักกับคุณติณณ์เร็วๆ”

“หมายความว่า...” อณุกามองหน้าอภิชาติอย่างเดาใจ

ooooooo

เมื่อถามชื่อเจ้าบ่าวอย่างไรนลินก็ไม่ยอมบอกกษิดิฐเลือกการ์ดแล้วถามความเห็น ปรากฏว่าเธอหลับไปแล้ว

“งานของตัวเองแท้ๆ แต่ดันหลับ” กษิดิฐบ่นแล้วงึมงำอย่างคิดไม่ตกว่า “ตกลงไอ้เจ้าบ่าวกำมะลอเป็นใคร กบอยู่ทั้งคน ทำไมไม่เอากบ”

ทำงานตัวเองจนเสร็จรอแต่ชื่อเจ้าบ่าว กษิดิฐเลยนึกสนุก ลุกขึ้นมาเอากระเป๋าถือของนลินมาหยิบเครื่องสำอางออกมา แกล้งเอาเครื่องสำอางแต้มหน้านลินบ้าง เอาดินสอเขี่ยปลายจมูกเธอบ้าง แกล้งเธอแล้วตัวเองก็หัวเราะขำอยู่คนเดียว

“กี่โมงแล้วน่ะกบ?” นลินตื่นถาม พอรู้ว่าจะเที่ยงคืนแล้วเธอทำตาโตลุกขึ้นถาม “กบทำการ์ดเสร็จรึยัง”

“เกือบเสร็จ เหลือแค่ชื่อเจ้าบ่าวจะบอกได้รึยังว่าชื่ออะไร?”

นลินยิ้มกรุ้มกริ่ม “ชื่อเจ้าบ่าว...นาย...”

ไฟดับพรึบทันที นลินตกใจถามว่า ไฟดับได้ไง กษิดิฐเลยชวนออกไปข้างนอกกันดีกว่า อยู่ในนี้ไม่มีแอร์หายใจไม่ค่อยออก ว่าแล้วลุกเดินนำไป นลินรีบเดินตาม...

ooooooo

แต่ประตูเปิดไม่ออกเพราะถูกยามที่ขึ้นมาเดินตรวจล็อกไว้ก่อนไฟดับ ยามอีกคนถามเพื่อนว่าดูดีแล้วหรือว่าไม่มีใครอยู่ในห้อง เมื่อไม่แน่ใจจึงพากันขึ้นมาดู ได้ยินเสียงกษิดิฐทำเสียงผีหลอกนลินก็ตกใจนึกว่าผีจริงๆ เลยพากันหนีลงไป

ไฟดับ ประตูห้องถูกล็อก ครั้นจะโทร.บอกยาม มือถือนลินซิมหาย เพราะทำร่วงเมื่อครู่นี้ ของกษิดิฐก็แบตหมด มีแต่ไอแพดของนลินที่ใช้ได้แต่ก็ไม่มีใครออนไลน์นอกจากอณุกา

นลินส่งข้อความขอความช่วยเหลือไปยังอณุกาที่อยู่สิงคโปร์ แต่อณุกากำลังอยู่กับอภิชาตไม่ได้คลิกเปิดอ่านทั้งสองรอแล้วรอเล่า อากาศร้อนขึ้นทุกที กษิดิฐจึงถอดเสื้อแก้ร้อน

จนกระทั่งเช้าไฟมา นลินบอกว่าแอร์เย็นแล้วให้เขาใส่เสื้อเสีย เดี๋ยวใครมาเห็นจะคิดเลยเถิด

“สมกับเป็นครีเอทีฟจริงๆ คิดอะไรสร้างสรรค์เกินจริง เดี๋ยวค่อยใส่ เสื้อมันเหม็นเหงื่อ” พูดแล้วเหลือบมองคอมพิวเตอร์ “เอาล่ะ เกือบเสร็จแล้ว เหลือแค่ใส่ชื่อเจ้าบ่าวข้างถนน ชื่ออะไร...”

นลินทำยักท่าลีลามาก จะบอกก็ไม่บอก จนกษิดิฐฉุนถามว่า “ตกลงไอ้หมอนั่นมันชื่ออะไร!”

“นายกษิดิฐ เกียรติโยธา” บอกแล้วเห็นเขาชะงักอึ้ง ก็รีบอ้อน “เป็นเจ้าบ่าวให้บัวนะ”

“ไม่!!” กษิดิฐทำเป็นเล่นตัวทั้งที่ดีใจจนเกือบเก็บอาการไม่อยู่

นลินทั้งโมโหทั้งร้อนใจเพราะใกล้เวลาที่อณุกาจะมาทำงานแล้ว เสียงเข้มใส่กษิดิฐว่านี่ไม่ใช่เวลาจะมาล้อเล่นกันทั้งยังโทษว่าที่ตนต้องเดือดร้อนเพราะเขา เพราะฉะนั้นเขาต้องรับผิดชอบ

กษิดิฐอ้างว่านลินเคยฝันอยากให้ผู้ชายมาคุกเข่าจับมือขอแต่งงานใช่ไหม ตนอยากทำแบบนั้น นลินบอกว่าไม่มีทาง กษิดิฐไม่ตอบโต้แต่หันหลังจะเดินออกไป

“เดี๋ยว...ไม่คุกเข่าได้ไหม แค่จับมือขอแต่งงานอย่างเดียวพอ” นลินต่อรอง กษิดิฐยอม โดยถือเสียว่าเพราะตนมีความผิดกึ่งหนึ่งก็แล้วกัน แต่พอเขายื่นมือให้ เธอคว้าไปกัดจนเขาร้องจ๊าก “สมน้ำหน้า รีบไปทำการ์ดเดี๋ยวนี้เลยนะ”

“ก่อนจะไปทำการ์ด...ขอถามอีกคำเดียว เจ้านายบัวไม่เคยรู้ว่าบัวมีแฟน แล้วอยู่ๆ บัวถือการ์ดแต่งงานไปวาง บัวคิดว่าเจ้านายจะเชื่อหรือ?”

นลินกับกษิดิฐช่วยกันทำการ์ดแต่งงาน นลินเห็นหน้าตัวเองในเงากระจกหน้าต่างเปื้อนเป็นรอยนิ้วมือที่กษิดิฐแกล้งตอนเธอหลับ เธอรู้ว่าถูกแกล้งแต่ไม่มีเวลาทะเลาะกันแล้ว พยายามเช็ดเองแต่เช็ดไม่ออก กษิดิฐจึงประคองหน้าเธอไว้แล้วช่วยเช็ดให้
เอ็ดดี้จะมาทำงานบอกให้แม่บ้านขึ้นมาช่วยทำความสะอาดห้อง มาเห็นกษิดิฐไม่ใส่เสื้อหันหลังให้ประตูเหมือนกำลังก้มจูบนลินอยู่ ทั้งสองรีบถอยไป เอ็ดดี้ยิ้มๆ แต่แม่บ้านดี๊ด๊าที่จะได้มีเรื่องมันๆไปเม้าท์ในเช้านี้

นลินดีใจที่ได้การ์ดแต่งงานไปให้อณุกาทันเวลาและลึกๆก็แอบสะใจเมื่อนึกถึงแตงกวา

เวลาเดียวกัน แตงกวาก็เร่งพี่ต๋องที่เวดดิ้งแพลนเน่อร์ให้วางแผนงานแต่งให้ตน เดี๋ยวจะเข้าไปเลือกชุด ย้ำว่าแต่งเดือนหน้าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงแน่นอน

เพราะได้เวลาที่จะเอาการ์ดไปให้อณุกาแล้ว ดารินทร์จึงหาชุดมาให้นลินและเอาชุดของสามีมาให้กษิดิฐเปลี่ยน ซึ่งก็พอดี แต่งแล้วหล่อเนี้ยบ เมื่อเจ้าบ่าวพร้อม เจ้าสาวพร้อมและการ์ดแต่งงานพร้อม จึงควงกันไปหาอณุกาที่ห้องทำงาน

ooooooo

พอนลินควงกษิดิฐเข้าไปในห้องก็แนะนำให้รู้จักเจ้าบ่าวของตน ทั้งกษิดิฐและปราณต่างจำกันได้ แต่ปราณแกล้งทำเป็นจำไม่ได้

อยู่ในภาวะตื่นเต้นที่นลินกับกษิดิฐลุ้นว่าอณุกาจะเชื่อพวกตนหรือไม่

ในความนิ่งเงียบของอณุกานั้น เธอดูชื่อกษิดิฐในการ์ดแต่งงาน นึกถึงคำบอกเล่าของอภิชาติที่ไปคุยกับตนที่สิงคโปร์ ทำหน้านิ่งบอกนลินว่า

“ความจริงเธอไม่ต้องเอาการ์ดมาให้ฉันก็เชื่ออยู่แล้วว่า เธอกับคุณกบเป็นอะไรกัน” เห็นนลินดีใจ อณุกาบอกว่า “เธอกลับมาทำงานที่นี่ได้”

“บัวขอบคุณนะคะที่คุณอณุกาเชื่อว่าบัวกับกบแต่งงานกันจริงๆ”

“เป็นใครก็ต้องเชื่ออยู่แล้วถ้าได้ยินข่าวลือนั้น” อณุกาพูดอย่างมีเลศนัย

ข่าวลือที่ว่านั้น ลือมาจากวงส้มตำที่แม่บ้านคนเมื่อเช้ากำลังเม้าท์อย่างเมามันให้ยามที่เป็นผัวตัวเองฟังว่า ว่าตนเห็นกับตาเลยว่าสถาปนิกนั่นยังไม่ได้ใส่เสื้อเลย เล่าไปกินส้มตำซี้ดซ้าดไปทั้งเผ็ดทั้งมันอารมณ์ เสร็จแล้วกำชับตามธรรมเนียมว่า “พี่อย่าไปบอกใครนะ” เพียงลุกจากวงส้มตำยามคนนั้นก็เม้าท์ต่อและตบท้ายว่า “อย่าไปบอกใครนะ”

ปากต่อปากลือไวปานไฟลามทุ่ง จนแตงกวาที่เพิ่งมาถึงที่ลานจอดรถยังได้ยินยามคุยมือถือกับเพื่อนเรื่องนี้อย่างเมามัน เธอตาลุกเดินอ้าวเข้าไปในตัวตึกทันที

แตงกวาพรวดเข้าไปในห้องทำงานของอณุกาที่นลินกับกษิดิฐยังอยู่ในห้องนั้น เธอปราดเข้าชี้หน้านลินด่าลั่น

“หาวิธีอื่นไม่ได้แล้วใช่ไหม ถึงต้องทำอย่างนี้มาจับกบของฉันน่ะ ผู้หญิงที่ทำตัวเละเทะแบบนี้ ไม่สมควรที่จะกลับมาทำงานในบริษัทของเราอีก!”

“น้องแตงกวาพูดถูก ที่นลินทำตัวไม่งาม แต่พี่เป็นคนสมัยใหม่ พี่เลยคิดว่าเรื่องนั้นไม่ผิด”

“ไปค้างคืนกับผู้ชายของคนอื่นอย่างนี้ มันไม่ผิดตรงไหนคะ” แตงกวาขึ้นเสียง

“ผู้ชายของคนอื่นที่ไหน คุณกบเป็นเจ้าบ่าวของนลินนะจ๊ะ” แตงกวาโวยวายว่านลินทำเพื่อเอาตำแหน่งคืนเท่านั้น ถูกอณุกาขัดขึ้นว่า “ใจเย็นๆนะจ๊ะน้องแตงกวาพี่คิดอยู่แล้ว ใครๆต้องคิดอย่างนี้” แล้วหันไปทางนลิน “นลิน ฉันคิดว่าเธอต้องพิสูจน์ให้เห็นแล้วล่ะว่า เธอไม่ได้หลอกฉัน”

อณุกาให้นลินเลื่อนงานแต่งเป็นอาทิตย์หน้าเพื่อกลบข่าวลือที่แพร่สะพัดไปทั่วบริษัท ทั้งยังปิดปากไม่ให้เธอโต้แย้งบอกว่า “ฉันจะเป็นเจ้าภาพจัดงานให้เธอเอง”

เมื่อทุกคนออกจากห้องไปแล้ว ปราณติงว่าข่าวลือนั้นทำให้เธอเชื่อว่านลินแต่งงานจริงๆหรือ อณุกายิ้มเจ้าเล่ห์บอกว่า

“เหตุผลที่ฉันเชื่อ มันไม่เกี่ยวกับข่าวลือหรอกปราณ แต่มันเป็นเพราะ....” เธอเล่าเรื่องที่อภิชาติอยากให้กษิดิฐแต่งงานไปกับคนอื่นเพื่อแตงกวาจะได้เลิกยุ่งกับผู้ชายคนนี้ จากนั้นเธอกดมือถือถึงอภิชาติ พูดยิ้มแย้มภูมิใจว่า

“ค่ะท่าน...ณุกาจัดการนายกษิดิฐออกจากชีวิตน้องแตงกวาได้แล้วล่ะค่ะ” พูดพลางเดินออกจากห้อง

“ไอ้กษิดิฐ! แกกับฉันได้คิดบัญชีกันแน่!!” ปราณจิกตาคำราม ส่วนแตงกวาพูดอาฆาตตาแทบลุกเป็นไฟว่า

“คอยดูนะ! งานแต่งบ้าบอนี่ จะไม่มีวันเกิดขึ้น!!”

ส่วนนลินกับกษิดิฐเดินคุยกันออกไปด้วยใบหน้าเครียด นลินปรารภว่าเรื่องชักจะไปกันใหญ่แล้ว จะทำยังไงดี

“มีอยู่สองอย่าง...ยอมรับความจริงแล้วลาออกเสีย หรือไม่ก็...ยอมแต่งงานกันอีกรอบ”

เป็นข้อเสนอที่นลินเครียด แต่กษิดิฐแอบยิ้มเพราะไม่ว่าเธอจะเลือกทางไหนก็เข้าทางตนทั้งนั้น

ooooooo

หลังจากที่อณุกาคุยกับอภิชาติที่สิงคโปร์แล้ว เธอโทรศัพท์ไปคุยกับติณณ์ที่เกาหลี ถามว่างานเป็นอย่างไรบ้าง ทุกอย่างโอเคไหม

คืนนี้ อณุกาโทร.ไปหาติณณ์อีก ติณณ์ฟังอณุกาแล้ว เขาชะงัก ถามงงๆว่า

“อะไรครับ...พี่ณุกาจะให้ผมกลับอาทิตย์หน้าเลยเหรอครับ?”

“ใช่จ้ะ พี่โทร.คุยกับผู้จัดการที่นั่นแล้ว เขาบอกว่างานของติณณ์เรียบร้อยทุกอย่าง ติณณ์จะกลับก่อนสามเดือนก็ได้ กลับมาเถอะนะ” พูดทิ้งไว้ให้คิดแล้วตัดสาย

“ไปงานของคุณบัว...งานอะไร”

แม้นลินจะกำหนดแต่งงานกับกษิดิฐแล้ว อณุกาก็ยังไม่วางใจ บอกปราณที่นัวเนียไม่หยุดว่า

“นี่ถ้าไม่มีประโยชน์เรื่องงานกับเรื่องที่ดึงคุณกบไปจากน้องแตงกวา ฉันไม่เอามันไว้แน่”

“แล้วคุณณุกาคิดว่าคุณแตงกวาจะยอมให้...คุณกบแต่งงานกับคุณบัวหรือครับ”

“แจกการ์ดขนาดนี้แล้ว ถ้าไม่ยอม แล้วจะทำอะไรได้” อณุกายิ้มอย่างสะใจ

แตงกวาแค้นคุแทบคลั่ง ออกจากห้องทำงานของอณุกาก็ตรงลิ่วไปที่บ้านกษิดิฐ กมลาบอกว่ากษิดิฐยังไม่กลับ

“แตงกวาไม่ได้มาหากบหรอกค่ะ แต่แตงกวาจะมาหาคุณพ่อคุณแม่ของบัว” นันทิดาที่มาช่วยตบแต่งกิ่งไม้ที่คุณย่ายอแสงปลูกไว้ ถามว่ามาหาตนทำไมหรือ แตงกวาไม่ตอบแต่มองหาชลัชถามว่า “นี่คุณพ่อของบัวยังไม่กลับใช่ไหมคะ งั้นรอก่อนดีกว่าค่ะ แตงกวาจะได้เล่าให้ฟังทีเดียว”

กมลารู้ฤทธิ์แตงกวามาแล้ว มองเธออย่างสังหรณ์ใจว่า วันนี้มีเรื่องบรรลัยมาให้แน่ๆ!

ooooooo

เมื่อชลัชกลับมาและฟังแตงกวาเล่าแล้ว เขาไม่เชื่อว่านลินจะไปยุ่งกับกษิดิฐอีก นันทิดาก็ยืนยันว่านลินโทร.มาบอกว่าทำงานที่ออฟฟิศทั้งคืน

แตงกวาท้าให้ถามคนทั้งบริษัทดูก็ได้ ทุกคนรู้ว่าเมื่อคืนนลินนอนกับกษิดิฐที่ออฟฟิศ บอกว่าตนต้องการเพียงความยุติธรรมเพราะทุกคนรู้ว่าตนเป็นอะไรกับกษิดิฐ แต่นลินกลับมาแย่งไปอย่างนี้ หรือเธอไม่มีปัญญา หาผู้ชายแล้ว

“มันไม่พูดเกินไปหน่อยเหรอหนูแตงกวา” ยศภัทรติง

“หรือมันไม่จริงคะ คราวที่แล้วอ้างว่าคุณย่าป่วยเลยต้องแต่ง คราวนี้จะอ้างว่าอะไรอีก? หรือจะบอกว่าท้อง”

ชลัชทนฟังไม่ได้ ไล่แตงกวาออกจากบ้านไปเดี๋ยวนี้ แตงกวาพูดเยาะว่า

“หวังว่าคุณอาจะไม่รักลูกจนยอมให้ลูกเอาผู้ชายของคนอื่นไปนะคะ” พูดแล้วยกมือไหว้ลวกๆ แล้วเดินไปพร้อมกมลาและยศภัทร

กษิดิฐกับนลินกลับมาถึงพอดี ทั้งสองเผชิญหน้ากับแตงกวา เธอบอกกษิดิฐอย่างเป็นต่อว่า

“พรุ่งนี้แตงกวาจะไปคุยกับเวดดิ้งแพลนเน่อร์เรื่องงานแต่งของเรา กบไปกับแตงกวาด้วยนะ” พูดแล้วผละไปเลย

กษิดิฐจับมือนลินจูงเข้าไปในบ้านทันที บอกเธอว่า จะพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส กมลากับยศภัทรตามเข้ามาด้วย แต่พอเข้าไปก็ถูกชลัชตำหนิอย่างรุนแรงว่าทำให้นลินเสียหาย กษิดิฐฉวยโอกาสนี้แสดงความรับผิดชอบด้วยการขอแต่งงานกับนลิน ว่าแล้วก็กอดนลินโชว์บอกว่า “เราสองคนรักกันครับ”

“ฉันไม่เชื่อ!!” ชลัชตะโกนใส่หน้าแล้วเดินขึ้นข้างบนไปเลย กมลากับยศภัทรเลยงงไปหมดว่าเกิดอะไรขึ้น

เมื่อกษิดิฐชี้แจงเรื่องเมื่อคืนและสาเหตุที่ต้องไปอยู่ที่ออฟฟิศกับนลินให้พ่อแม่ตัวเองและนันทิดาฟังแล้ว เขายืนยันว่าที่ทำไปเพื่อช่วยนลิน ตนไม่ผิด
กมลาฟังแล้วหันไปจับมือนันทิดา มองรูปของคุณย่ายอแสง บอกคุณย่าอย่างดีใจมากว่า

“ในที่สุด เด็กสองคนนี้ก็กลับมาแต่งงานกันอีกครั้งแล้วค่ะคุณแม่”

ยศภัทรเสนอให้พรุ่งนี้พาผู้ใหญ่ไปสู่ขอนลินเลยดีไหม กมลาเห็นด้วย และคืนนี้ตนก็จะโทร.สั่งดอกไม้ เลือกโรงแรม เลือกอาหาร และจดรายชื่อแขกที่จะเชิญมางานเลย ส่วนนันทิดาก็เร่งนลินต้องรีบไปตัดชุดเจ้าสาวและยังต้องจัดการเรื่องแหวนอีก

นลินติงว่าบางทีตนอาจจะไม่ได้แต่งก็ได้ถ้าพ่อไม่ยอม นันทิดารับรองแข็งขันว่าเรื่องพ่อไม่ต้องห่วงไว้แม่จัดการเอง
พอพากันกลับบ้าน นันทิดาและนลินพากันไปที่ห้องนอนของชลัช เจอเขานอนหันหลังให้อยู่ นลินเดินไปด้านหน้าเอ่ยขอโทษ ชลัชก็พลิกหนีหันหลังให้ จนนันทิดาบอกให้นลินไปนอนเสีย แล้วตัวเองก็ไปนั่งที่เตียง หว่านล้อมอย่างใจเย็น...

“ดารู้ว่าคุณโกรธ แต่เราต้องยอมรับว่าเรื่องมันเกิดขึ้นแล้ว ถึงคุณไม่อยากให้กบแต่งงานกับลูกบัว แต่นั่นเป็นวิธีเดียวที่รักษาชื่อเสียงของลูกบัวนะคะ คุณลองคิดดูแล้วกันค่ะ ว่าระหว่างความรู้สึกของคุณกับการรักษาชื่อเสียงของลูก คุณควรจะเลือกอะไร”

พูดทิ้งไว้ให้ชลัชคิดแล้วเดินออกจากห้องไป ชลัชหันมองนันทิดาที่เดินออกไปแล้วนอนคิดสะระตะ...ชั่งใจ
แต่คนที่มีความสุขคือกษิดิฐ กลับเข้าห้องนอนแล้วเขาถอดแหวนที่ร้อยสร้อยห้อยคอออกมาลองสวมนิ้วนางข้างซ้าย แล้วมองรูปคุณย่ายิ้มให้อย่างมีความสุข

นลินเอง พอกลับเข้าห้องก็เอากล่องที่เก็บทั้งการ์ดแต่งงาน ของชำร่วย อัลบั้มและแหวนที่เคยใช้ในการแต่งงานคราวที่แล้วออกมาดูอย่างไม่คาดคิดว่าจะต้องกลับมาสวมแหวนวงนี้อีกครั้ง

ooooooo

เช้าวันรุ่งขึ้น ทั้งสองบ้านพากันแปลกใจและเป็นห่วง เมื่อชลัชขับรถพากษิดิฐออกจากบ้านแต่เช้า

กษิดิฐเองก็ไม่รู้ว่าชลัชจะพาไปไหน นั่งเงียบไปพักใหญ่จึงถามว่า “ตกลงคุณอาจะพาผมไปไหนหรือครับ”

“ถ้าทำได้ ฉันอยากพานายไปตาย!” ชลัชพูดนิ่งๆ แต่ฟังแล้วกษิดิฐถึงกับกลืนนํ้าลายฝืดคอ จนกระทั่งชลัชพาไปที่เจดีย์เก็บกระดูกของคุณย่ายอแสง แล้วบอกเขาว่า “ฉันเชื่อว่า ฉันกับคุณป้ายอแสงเหมือนกันอยู่อย่างนึง คือรักลูกบัวที่สุด อยากให้ลูกบัวมีชีวิตที่ดีที่สุด มีความสุขและเจอผู้ชายที่ดูแลบัวได้ ฉันไม่เข้าใจว่าทำไมคุณป้าถึงคิดว่าผู้ชายคนนั้นเป็นนาย”

ในสถานการณ์ที่ตึงเครียดนี้ กษิดิฐก็ยังไม่วายทะเล้น บอกว่าตนก็ไม่รู้ ครั้นจะเรียกคุณย่ามาถามก็เกรงว่าคุณอาจะกลัวผี เลยถูกชลัชที่เริ่มอารมณ์ผ่อนคลาย เครียดขึ้นมาอีก ปรามหน้าตึงว่า

“นายกบ! เพราะนายเป็นคนอย่างนี้นี่ไง ปากเสีย! ไร้สาระ! เจ้าชู้! ไม่มีความรับผิดชอบ!! ฉันถึงไม่อยากให้ลูกบัวยุ่งกับนาย!” พอกษิดิฐทำหน้าจ๋อย ชลัชพูดเป็นการเป็นงานต่อ “ลูกบัวเป็นทั้งชีวิตและหัวใจของฉัน วันที่ลูกบัวแต่งงานกับนาย มันเป็นวันที่นายเอาดวงใจของฉันไปด้วย และวันที่นายหย่ากับลูกบัว ก็เป็นวันที่นายกระทืบดวงใจของฉันเสียยับเยิน”

“คุณอาครับ...” กษิดิฐหน้าสลดอย่างรู้สึกผิด

“ฉันบอกตรงๆว่าในใจฉันทั้งโกรธและแค้นนาย แต่วันนี้ฉันต้องลืมความรู้สึกของฉันเพื่อรักษาเกียรติของลูกบัว นายทำให้ฉันเชื่อหน่อยเถอะว่า สิ่งที่ฉันตัดสินใจ มันจะไม่ผิดพลาดอีก”

“ผมขอสัญญาต่อหน้าคุณย่าว่า ผมจะดูแลปกป้องและทำทุกอย่างเพื่อบัว เหมือนที่คุณย่าเคยบอกผมมาตลอด ผมจะไม่ทิ้งบัวไปไหน ผมจะอยู่กับบัวไปจนกว่าบัวจะไม่ต้องการผม” กษิดิฐเคร่งขรึมจริงจัง แม้ชลัชจะนิ่งฟังแต่ก็ไม่แน่ใจว่าจะเชื่อถือคำพูดของเขาได้สักแค่ไหน

ooooooo

เวลาเดียวกันนี้ ที่บ้านนลิน นายพลคำรณที่ยศภัทรเชิญมาเป็นเถ้าแก่สู่ขอนลินมานั่งรอนานแล้ว เพราะทั้งว่าที่เจ้าบ่าวและว่าที่พ่อตาไม่รู้หายไปไหนกันแต่เช้า

ท่านนายพลคอยนานจนสงสัย เสนอว่า “เราเลื่อนไปก่อนดีไหม เพราะถ้าเราดื้อขอลูกสาวโดยที่พ่อเขาไม่เต็มใจมันจะลำบากใจกันทั้งสองฝ่าย”

“ผมเต็มใจครับ” ชลัชส่งเสียงแทรกเข้ามาก่อนตัวจะมาถึง

เมื่อทุกอย่างพร้อม ยศภัทรเสนอให้เริ่มพิธีการกันเลย ท่านนายพลถามชลัชที่เข้าร่วมพิธีอย่างเป็นการเป็นงานว่า

“ไม่ทราบว่าคุณพ่อเจ้าสาวจะติดขัดหรือขัดข้องอะไรไหมกับการสู่ขอเจ้าสาวครั้งนี้”

ทุกคนใจคอไม่ดี มองลุ้นคอยคำตอบจากชลัช แล้วทุกคนก็ถอนใจโล่งอก เมื่อเขาตอบชัดถ้อยชัดคำว่า

“ไม่ครับ”

เสร็จสิ้นพิธีการแล้ว พากันเดินมาส่งท่านนายพลที่รถ ชลัชถามทุกคนว่า “หมดเรื่องแล้วใช่ไหม” แล้วเดินกลับเข้าบ้านไปทันที บรรดาที่เหลืออยู่เลยรุมกันซักถามกษิดิฐว่าเมื่อเช้าชลัชพาไปไหนมา

หลังจากนั้นนลินเดินไปหาชลัชที่นั่งนิ่งอยู่ที่โซฟาในห้องรับแขกที่บ้าน

“บัวอยากจะมาขอบคุณพ่อ”

“จำไว้นะลูกบัว ทุกอย่างที่เกิดขึ้นวันนี้เป็นสิ่งที่ลูกเลือกเอง ถึงพ่ออยากจะห้ามลูกขนาดไหน แต่มันเป็นชีวิตของลูก ดังนั้น ต่อไปวันข้างหน้าจะเกิดอะไรขึ้นลูกต้องพร้อมที่จะยอมรับผลของมัน”

พูดแล้วชลัชลุกเดินขึ้นบันไดไป นลินมองตามพ่อไปด้วยความตื้นตันในความรักของพ่อ หันมาเห็นกษิดิฐเดินเข้ามา พูดปลอบใจว่าอย่างน้อยคุณอาก็ยอมให้เรา แต่งงานกันแล้ว เรื่องทุกอย่าง...จบ เธอถามว่าเขาลืมใครคนหนึ่งไปหรือเปล่า ถ้าคนคนนั้นรู้ว่าเราได้แต่ง...มันจะเป็นอย่างไร กษิดิฐนึกถึงแตงกวา ตัดบทว่าเราไม่ต้องให้รู้ก็แล้วกัน

“คงเป็นไปได้หรอก” นลินพูดประชดอย่างรู้ฤทธิ์เดช แตงกวาดี

ooooooo

อณุกากับอภิชาติส่งข่าวถึงกันตลอดเวลา วันนี้อภิชาติมาบอกอณุกาว่า แตงกวาบอกว่าพ่อของนลินไม่ยอมให้สองคนแต่งงานกัน

แต่อณุกาเชื่อว่าทั้งสองต้องได้แต่งกันแน่ อภิชาติถามว่าถึงได้แต่งคิดว่างานแต่งจะรอดหรือ?

“อย่าบอกนะครับว่าคุณแตงกวาจะไปพังงานเขา” ปราณถามขึ้น

หลังจากนั้น แตงกวาก็ได้รับโทรศัพท์จากอภิชาติบอกว่าถูกรถชนที่แอร์พอร์ตเกาหลี เร่งให้เธอไปหาวันนี้เลย

ที่แท้อภิชาติโทร.จากสนามบินสุวรรณภูมินี่เอง อณุกากับปราณที่ไปส่งเร่งให้เขารีบเดินทางเพราะตนให้ติณณ์จองห้องพักไว้ให้แล้ว

“แล้วทีนี้คุณแตงกวาก็ไม่รู้เรื่องงานแต่งของคุณบัวกับคุณกบ และก็จะได้ไปเจอคุณติณณ์ด้วย” ปราณพูดอย่างเอาใจ ส่วนอภิชาติก็ชมอณุกาว่าฉลาดสมกับเป็นเจ้าของบริษัทโฆษณาดังจริงๆ

บัวเพิ่งรู้จากดารินทร์ขณะไปนั่งดื่มกาแฟกันที่ ร้านว่า อณุกากับแตงกวาเดินทางไปต่างประเทศอาทิตย์หนึ่งถึงจะกลับ แต่เธอก็ได้ให้ปราณดูแลงานแต่งของนลินแทนแล้ว

เป็นวันเดียวกับที่กษิดิฐรับปภพสามีของดารินทร์เข้าทำงานในบริษัทเขาด้วย มัญจาเอ่ยกับทุกคนอย่างยินดีว่า

“วันนี้เป็นวันดี ไหนจะเรื่องบัวแต่งกับกบ ไหนจะเรื่องที่พี่ภพได้ทำงาน ไหนจะเรื่องแตงกวาไม่อยู่เป็นมาร ต่อไปทุกคนก็จะมีความสุข ไชโย!” ทุกคนอารมณ์คล้อยตามยกแก้วกาแฟชนกัน มีแต่สารัชที่ชนแก้วแสดงความยินดีแต่หน้าเศร้า

ooooooo

กมลากับนันทิดาจะพากษิดิฐกับนลินไปซื้อแหวนแต่งงาน แต่ทั้งสองปฏิเสธ กษิดิฐต้องการใช้แหวนที่คุณย่าให้ นลินก็จะใช้แหวนที่คุณย่าให้เช่นกัน นันทิดาติงว่า คราวที่แล้วแต่งได้แค่ 7 วันก็หย่า บอกให้ซื้อวงใหม่ดีกว่า

“จะวงเดิมหรือวงใหม่ พอบัวได้งานคืนก็ต้องหย่ากับกบอีกอยู่ดี ใช้วงเดิมที่คุณย่าให้ไว้นี่แหละค่ะ จะได้ไม่ต้องเปลืองเงินไงคะ”

เหตุผลของนลินทำให้ทั้งกมลาและนันทิดาสบตากันอย่างหนักใจ...

ฝ่ายแตงกวาไปเจออภิชาติที่เกาหลีในสภาพใส่เฝือกที่แขน เธอวุ่นวายกับการโทร.หากษิดิฐ เมื่อเขาไม่รับสายก็ปาโทรศัพท์ทิ้งอย่างฉุนเฉียวแล้วเดินปึงปังเข้าห้อง อภิชาติเห็นดังนั้นหยิบโทรศัพท์ของเธอทิ้งถังขยะตัดปัญหาไปเลย

อณุกากับอภิชาติวางแผนให้แตงกวารู้จักกับติณณ์ จึงนัดติณณ์มาทานข้าวเย็นกัน ทั้งหมดไปรอที่ห้องส่วนตัวในร้านอาหารหรู แต่ติณณ์ติดธุระมาไม่ได้ แตงกวาเร่งให้รีบกลับตนจะได้ไปหาโทรศัพท์ไม่รู้ว่าหายไปไหน

“งั้นคุณณุกาก็นัดคุณติณณ์มาทานข้าวพรุ่งนี้ก็แล้วกัน  ไหนๆก็มาถึงที่นี่แล้ว ผมอยากให้แตงกวาได้รู้จัก”

แตงกวาสงสัยว่าทำไมพ่อกับอณุกาถึงอยากให้ตนได้รู้จักกับติณณ์นัก ระแวงว่าทั้งสองจะมีแผนอะไรกันหรือเปล่า

ooooooo


ปราณวางแผนให้แตงกวากลับมาป่วนงานแต่งงานของกษิดิฐกับนลิน เขาจัดเลี้ยงแสดงความยินดีล่วงหน้าให้ทั้งสองในร้านอาหารกึ่งผับ

ปราณแสดงความสนิทสนมเป็นกันเองมาก บอกทุกคนที่มาร่วมงานว่า

“เต็มที่เลยนะครับ คุณกบสละโสดทั้งที ไม่เมาไม่เช้าไม่ให้กลับนะครับ”

กินดื่มไปได้พักใหญ่ ปราณบอกกษิดิฐว่า

“ผมมีของขวัญมาให้คุณด้วยนะครับ” แล้วเขาก็เอาทะเบียนรถป้ายแดงมอบให้ “ขอมอบให้เจ้าบ่าวป้ายแดงครับ”

“โดนใจมากกกกก...” กษิดิฐชูทะเบียนรถป้ายแดงหัวเราะร่า หารู้ไม่ว่าปราณให้คนขับรถของเขาใช้ไอโฟนถ่ายรูปไว้ทั้งหมด แล้วส่งไปให้แตงกวาดู

“ไม่จริง! กบไม่มีทางได้แต่งงานกับยายบัว!!” แตงกวาแผดเสียงอย่างเจ็บใจ แล้วเธอก็จองตั๋วเครื่องบินกลับเลย

เช้านี้บรรยากาศทั้งบ้านกษิดิฐและบ้านนลินคึกคักมาก เมื่อได้ฤกษ์สวมแหวนแต่งงาน นลินกลับร้องไห้เพราะคิดถึงคุณย่าที่เป็นประธานในพิธีแต่งงานให้คราวที่แล้ว ครั้งนั้นสวมแหวนแต่งงานให้นลินไม่เข้า

วันนี้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอย ยศภัทรกระซิบบอก “ใช้วิธีเดิมเลยตากบ” นลินได้ยินรีบบอกว่าไม่เอาวิธีเดิม แต่ถูกกษิดิฐยกมือเธอขึ้นเลียเพื่อให้ลื่นจนสวมแหวนได้สำเร็จ

แขกในงานพากันยิ้มแย้มยินดี คิดว่ากษิดิฐหอมมือเจ้าสาว

ooooooo

สายวันรุ่งขึ้น ที่โรงแรมในเกาหลี อณุกาเดินนำติณณ์จะไปหาอภิชาติที่ห้องพัก ระหว่างนั้นก็เอ่ยอย่างพอใจว่า

“ขอบใจติณณ์มากนะ ที่ยอมหยุดงานพาพี่กับน้องแตงกวาเที่ยว”

เวลาเดียวกัน อภิชาติเดินอย่างเร็วมาที่เคาน์เตอร์โรงแรมเพื่อเช็กเอาต์ อณุกาเดินมาทักด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม

“สวัสดีค่ะท่าน ณุกาจะไปขออนุญาตพาน้องแตงกวาเที่ยวกับติณณ์อยู่พอดีเลย” พูดพลางส่งสายตาอย่างรู้กัน

อภิชาติบอกหน้าเครียดว่าไม่ทันแล้ว อณุกาชะงักสังหรณ์ใจว่าแตงกวาต้องทำเรื่องอะไรอีกแน่ๆ

ส่วนติณณ์เห็นอาการของผู้ใหญ่ทั้งสองก็มองอย่างสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น?

ooooooo

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น